ต้องขอบอกก่อนเลยว่า บลัชออนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเวลาที่เราแต่งหน้า ถือเป็นหนึ่งในไอเท็มสุดวิเศษสำหรับวัยรุ่นอย่างเราที่จะเพลิดเพลินไปกับการแต่งแต้มสีสันบนแก้มสวย ๆ ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีบลัชออนให้เลือกซื้อหลายประเภทและหลากสีสัน จนเลือกไม่ถูกเลยว่าแบบกับไหนน้าที่จะเหมาะกับใบหน้าของเรามากที่สุด?
ซึ่งในครั้งนี้ ทีมงานมายเบสท์จะขอเป็นที่ปรึกษาด้านความสวยความงามของสาว ๆ เพราะนอกจากเราจะมาบอกวิธีการเลือกซื้อบลัชออนแล้ว ทางเรายังแนะนำ 10 อันดับบลัชออนยอดนิยมสำหรับวัยรุ่น ทั้งแบบ ผง, ลิควิด และครีม เป็นข้อมูลให้เพื่อน ๆ ได้ตัดสินใจเลือกซื้อบลัชออนในแบบที่ถูกใจและเหมาะสมกับตัวเองกันค่ะ
ในปัจจุบันอุตสาหกรรมเครื่องสำอางได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีบลัชออนหลากหลายประเภทให้เลือกสรร เรามาดูกันก่อนเลยว่า เพื่อน ๆ เหมาะสมกับบลัชออนประเภทไหน และเวลาไหนควรเลือกใช้บลัชออนอย่างไร
การที่เราจะเลือกสีของบลัชออน เราควรจะต้องคำนึงถึงสถานที่และเวลาถึงจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด
สำหรับการแต่งหน้าออกไปข้างนอกในวันหยุดนั้น เราสามารถแต่งหน้าให้เข้มกว่าวันไปโรงเรียน และที่สำคัญเพื่อน ๆ อาจจะมีนัดออกไปเจอผู้คนมากมาย หรือไปกวดวิชา ฉะนั้นเราสามารถแต่งตาให้อ่อนลงและเลือกสีบลัชออนที่เข้มขึ้นได้เพื่อให้พวงแก้มดูโดนเด่นขึ้นมา เช่น สีแดงอมส้ม หรือนู้ดน้ำตาลส้ม
หากคุณเป็นสาวมัธยมปลายเราแนะนำให้แต่งหน้าแบบอ่อน ๆ ไปโรงเรียน เพราะถ้าแต่งเข้มไปอาจจะทำให้ดูหน้าแก่ ไม่สมวัย หรือโดนเพ่งเล็งจากอาจารย์ฝ่ายปกครองได้ สำหรับสาวมหาวิทยาลัย แน่นอนว่าช่วงเวลานี้ต้องเรียนหนักขึ้นบางครั้งหน้าอาจจะโทรมจากการอดหลับอดนอนเพื่อทำรายงานส่งให้ทันเดดไลน์ ซึ่งการแต่งหน้าไปเรียนนั้น ทางเราแนะนำให้ใช้โทนสีที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่งในโทนเผยผิวเพื่อให้ได้ลุคหน้าเด็ก และทำให้หน้าของเราดูสดใสมากยิ่งขึ้น
บลัชออนที่เป็นที่นิยมในตอนนี้มี 3 ประเภท คือแบบ ผง, ลิควิด และครีม ทางทีมงานมายเบสเชื่อว่าเพื่อน ๆ คงจะคุ้นเคยกับบลัชออนแบบผงมากที่สุด แต่เราจะเห็นว่าบลัชออนก็มีประเภทอื่น ๆ เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้กับสาว ๆ ด้วย เช่น ลิควิดและครีม ซึ่งบลัชออนชนิดต่าง ๆ นั้นก็มีข้อดีแตกต่างกัน เราไปดูกันเลยค่ะ
บลัชออนชนิดผงมีข้อดีคือ มีความง่ายต่อการใช้มากที่สุดเมื่อเทียบกับแบบลิควิดและครีม เนื้อผงจะทำให้เกลี่ยง่าย และควบคุมความเข้มอ่อนได้ดี นอกจากนี้ยังให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ เพราะฉะนั้นหากเพื่อน ๆ เป็นคนที่ไม่เคยใช้บลัชออนหรือเพิ่งเริ่มแต่งหน้า เราขอบอกเลยว่า บลัชออนชนิดผง เหมาะสมที่สุดค่ะ
บลัชออนชนิดลิควิดและครีม เนื้อสัมผัสจะเหลวทำให้ทาแล้วเหมือนผิวดูชุ่มชื้นเป็นธรรมชาติ ทำให้ถูกใจวัยรุ่นหลาย ๆ คน แต่จะเกลี่ยความเข้มอ่อนได้ยากกว่าแบบผง ทำให้มีคำถามที่มักจะถามกันว่า “จะทำให้ยากต่อการแต่งหน้าหรือไม่?” ความยากของการใช้บลัชออนประเภทนี้จะอยุ่ที่การเกลี่ยและการกะปริมาณที่เหมาะสม ผู้เขียนจึงขอแนะนำเพื่อน ๆ ให้เริ่มใช้จากปริมาณเล็กน้อยในช่วงแรกจนกระทั่งชินกับการใช้งาน ทีนี้ก็จะใช้บลัชออนแบบลิควิดและครีมได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียวค่ะ
แน่นอนว่าการตกแต่งบรรจุภัณฑ์เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกไอเทม เครื่องสำอางก็เช่นกัน โดยเฉพาะแพ็กเกจที่สวยงามสะดุดตา ก็อาจจะทำให้เราตกหลุมพรางในความเก๋ไก๋ของมันโดยไม่ได้นึกถึงสีหรือคุณภาพใด ๆ แต่ก็ช่วยไม่ได้จริง ๆ เพราะแค่สาว ๆ ได้มาไอเทมสวย ๆ มาไว้ในครอบครองก็ฟินสุด ๆ เลยใช่ไหมคะ
แน่นอนว่าวัยรุ่นหลาย ๆ คน ยังไม่มีรายได้เป็นของตนเอง ส่วนมากจะได้รับเงินค่าขนมรายเดือนจากทางบ้านเท่านั้น และหากหมดเงินมากมายไปกับเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นมาสคาร่า, รองพื้น, ลิปสติก และบลัชออน แพง ๆ ก็จะทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แต่ของมันต้องมีใช่ไหมคะ จะไม่ซื้อก็ไม่ได้ ฉะนั้น เราจึงอยากจะแนะนำให้เพื่อน ๆ เลือกซื้อบลัชออนที่มีราคาสมเหตุสมผลกับรายได้ของตนเอง ทีนี้เพื่อน ๆ ก็จะสวยได้แถมสบายใจเพราะเงินก็ยังมีเก็บไว้ใช้อย่างอื่นอีกด้วย
บลัชออนเนื้อฝุ่นตัวนี้ได้มาพร้อมกับตัวอายแชโดว์เลยค่ะ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่อยากให้แก้มของเราดูสุขภาพดีอมชมพูแบบระเรื่อ ๆ แล้วล่ะก็ บลัชออนตัวนี้มอบให้สาว ๆ ได้อย่างแน่นอนค่ะ สีน่ารักมาก ๆ แถมยังติดทนยาวนานตลอดทั้งวัน และที่สำคัญยังมีไฮไลท์มาในตลับเดียวกันด้วย พกพาก็ง่าย ตลับก็น่ารัก สายหวาน สายเกา ควรมีไว้ค่ะ
ในส่วนของการลงบลัชออนนั้น นัทก็ใช้แปรงที่มาพร้อมกับตลับ แอบบอกว่าขนแปรงนุ่มนิ่มสุด ๆ ไปเลย ส่วนวิธีการใช้จะใช้แปรงในการปัดลงไปในตลับบลัชออนแบบหมุนตามเข็มนาฬิกา จากนั้นก็ปัดลงบริเวณพวงแก้ของเราได้เลยค่ะ แต่ถ้าใครเป็นมือใหม่ขอย้ำว่าค่อย ๆ ลง ค่อย ๆ เติมเอานะคะ อย่าลงสีหรือปัดแรงจนเกินไป เพราะไม่อย่างนั้นแก้มเราจะแดงมาก ๆ เลยล่ะค่ะ และสำหรับไฮไลท์นัทก็จะหาแปรงหัวเล็ก ๆ มาปัดลงบริเวณโหนกแก้ม สันจมูกและโหนกคิ้วค่ะ เพื่อเพิ่มมิติให้ใบหน้าของเราดูเป๊ะปังมากยิ่งขึ้น
ต่อจากนี้จะเป็นการแนะนำ 10 อันดับบลัชออนยอดนิยมสำหรับวัยรุ่น ซึ่งเราจะแนะนำทั้งชนิดผง, ลิควิด และครีมที่สามารถหาซื้อได้จากร้านค้าออนไลน์และร้านค้าทั่วไปนะคะ เราไปดูกันเลยค่ะว่าบลัชออนรุ่นไหนยี่ห้อไหนที่เป็นที่นิยม ต้องหามาครอบครองกันบ้าง
สำหรับสีนี้คงไม่มีสาว ๆ วัยรุ่นคนไหนไม่รู้จัก เพราะเป็นตัวที่ฮิตอย่างต่อเนื่องกับบลัชออนจาก Nars เครื่องสำอางแบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา สีฮิตที่สุดคงหนีไม่พ้น Orgasm ซึ่งเป็นสีชมพูอมส้มเล็กน้อย ทำให้ดูไม่หวานจนเกินไป มีเนื้อเกล็ดชิมเมอร์เป็นประกาย เพิ่มความโดดเด่นให้กับพวกแก้ม ทาแล้วได้ลุคสาวหวานผู้ดีมากค่ะ อย่างไรก็ตามรุ่นนี้มีข้อเสียคือ อาจจะมีราคาสูงเกินไปสำหรับสาววัยรุ่น และที่สำคัญแบรนด์ต่างชาติสาว ๆ อาจจะต้องระวังของปลอมกันด้วยนะคะ แนะนำให้ซื้อจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือได้ค่ะ
ต่อไปเป็นแบรนด์สัญชาติไทยชื่อดังอย่าง Mistine ที่ออกผลิตภัณฑ์ที่ราคาย่อมเยาและคุ้มค่าออกมาอย่าง Ava Pocket Blush On ที่ซื้อตลับเดียวแต่ได้บลัชออนถึงสามสี ชมพู, พีช และส้ม พูดง่าย ๆ ก็คือ หากเพื่อน ๆ ออกไปข้างนอกแล้วพกตัวนี้ไปสามารถเปลี่ยนลุคเช้า กลางวัน เย็น โดยไม่ซ้ำได้เลยค่ะ แต่อาจจะไม่เหมาะกับสาว ๆ ที่ชอบพกของน้อย ๆ นะคะ เพราะขนาดค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับบลัชออนทั่วไป
มาดูแบรนด์สัญชาติไทยอย่าง NEECARA กันบ้าง ผู้เขียนขอกระซิบว่ากำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ตอนนี้เลยนะคะ ตัวเนื้อบลัชออนของเขาจะเป็นเนื้อลิควิดค่อนข้างเหลว ไม่ทิ้งคราบ ทางแบรนด์เขาเคลมว่าติดทนทั้งวัน อีกทั้งราคายังน่าคบหาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ตัวนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มแต่งหน้าเท่าไหร่นัก เพราะสีค่อนข้างแน่น หากกะปริมาณไม่ดี อาจจะทำให้แก้มแดงเกินได้นะคะ
พลาดไม่ได้เลยกับบลัชออนเนื้อลิควิดของ Majolica Majorca แบรนด์ดังสัญชาติญี่ปุ่น ที่ออกผลิตภัณฑ์ออกมาได้น่ารักน่าใช้มาก ๆ แต่ไม่เพียงแค่ดูดีที่ภายนอกเท่านั้น เนื่องจากเจ้า Cream De Cheek มีส่วนผสมของ แมคคาดาเมีย นัท ออยล์ ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นตลอดวันแถมยังกันน้ำอีกด้วย ส่วนโทนสีก็จะเป็นสีหวาน ๆ สไตล์ญี่ปุ่นเหมาะสำหรับสาว ๆ มัธยมปลาย และสาวมหาวิทยาลัยมาก ๆ ค่ะ
สาวที่ชอบความวิ้งแบบไฮไลท์ต้องบลัชออนจาก MERREZ’CA – Mineral Pearls Blush ตัวนี้เลยค่ะ นอกจากแพ็กเกจจะดูดีแล้ว เนื้อของบลัชออนก็มีความสวยสะดุดตามากด้วยเช่นกัน ตัวนี้โดนเด่นตรงที่เนื้อชิมเมอร์ค่อนข้างเยอะ เหมาะสำหรับสาว ๆ วัยรุ่นที่ต้องการลุคประกายวิ้ง ๆ โดยที่เพื่อน ๆ ไม่ต้องปัดไฮไลท์เพิ่ม นอกจากนี้ยังใช้เป็นอายแชโดว์ได้อีกด้วย นับว่าคุ้มค่ามาก ๆ เลยนะคะในราคาไม่ถึง 500 บาท
หลายคนคงรู้จักดีกับแบรนด์ Clinique และคงจะเห็นผ่านตาบ่อย ๆ กับตัว Clinique – Cheek Pop ที่มีความโดดเด่นด้วยเนื้อบลัชออนรูปดอกไม้ และมีสีให้เลือกถึง 16 เฉดสีด้วยกัน เนื้อของตัว Cheek Pop จะมีความบางเบาแต่เม็ดสีแน่นละเอียดทำให้ติดทนแม้ปัดนิดเดียวแก้มก็สวยโดดเด่นขึ้นมาแถมยังดูเป็นธรรมชาติให้ลุคสาวสุขภาพดีอีกต่างหาก ถึงแม้ราคาจะค่อนข้างสูงไปหน่อยสำหรับวัยรุ่น แต่เทียบกับคุณภาพแล้วคุ้มค่าแน่นอนค่ะ
อย่างที่เรารู้กันนะคะว่าเครื่องสำอางที่เป็นคุชชั่นเช่นรองพื้นจะให้ความรู้สึกแบบ Makeup No Makeup หรือการแต่งหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติเหมือนไม่ได้แต่ง บลัชออนก็เช่นกันค่ะ Laneige – Cheek Glow จะทำให้ความรู้สึกชุ่มชื้นเป็นธรรมชาติเหมือนหน้ามีสุขภาพดีตั้งแต่เกิด สีที่มีให้เลือกซื้อถึงจะมีแค่สองสี คือ ชมพูอมแดง และ ส้มพีช แต่ก็เป็นสีที่เหมาะสำหรับสีผิวสาวเอเชียอย่างเราโดยเฉพาะค่ะ
อย่างที่สาว ๆ รู้กันนะคะว่าตอนนี้เทรนด์ Ombre หรือที่เรียกว่าการไล่สี กำลังมาแรงมาก ๆ ดังนั้น Maybelline New York จึงออกบลัชออนที่มีการไล่เฉดสีที่ลงตัวออกมาเอาใจสาวโดยเฉพาะ โดยที่สีอ่อนจะเป็นเนื้อชิมเมอร์ สีเข้มจะเป็นเนื้อแมท ทำให้ปัดแล้วหน้าดูชัดมีมิติมากยิ่งขึ้น เหมาะกับเพื่อน ๆ ที่ชอบแต่งหน้าสาย ฝ. มาก ๆ ค่ะ อย่างไรก็ตามสีนี้อาจจะไม่เหมาะแต่งไปโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย เหมาะกับแต่งออกไปสังสรรค์ในวันหยุดนอกบ้านมากกว่าค่ะ
มาถึงอันดับที่ 2 กันแล้วนะคะ ทางเราขอแนะนำบลัชออนดีไซน์เก๋ไก๋ที่มาพร้อมกับสารบำรุงผิว บลัชออนตัวนี้ทำให้สาว ๆ พกพาง่ายเพราะมาในรูปแบบแท่งพร้อมแปรง ทำให้หยิบออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย และนอกจากจะมีสีให้เลือกถึง 7 สีแล้ว ยังมีมอยเจอร์ไรเซอร์ และสารสกัดจากธรรมชาติอย่างดอกกุหลาบพันปีและจมูกข้าว ซึ่งสาว ๆ ที่แพ้ง่ายไม่ต้องกังวลเลยค่ะ นอกจากจะได้ความสวยแล้วยังเป็นการบำรุงผิวได้ครบจบในแท่งเดียว
มาถึงอันดับ 1 ที่ทุกคนรอคอย แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น 4U2 – You Heart Me Blush บลัชออนเนื้อครีมที่มาแรงมาก ๆ เพราะมีสีให้เลือกเยอะถึง 10 สีแถมยังสวยทุกสีจนเลือกไม่ถูก คุณสมบัติเกลี่ยง่าย ติดทน แถมแพ็กเกจยังน่ารักถูกใจวัยรุ่นอย่างเรา ที่สำคัญตัวนี้พิเศษมาก ๆ ตรงที่ มีสารกันแดดถึง SPF35 PA+++ บลัชออนตัวนี้นอกจากปัดแล้วแก้มสวยยังเป็นตัวช่วยของสาว ๆ ในการป้องกันแสงแดดแรง ๆ ในเมืองไทยอีกต่างหาก ราคา, แพ็กเกจและคุณภาพดีขนาดนี้สมกับเป็นบลัชออนอันดับ 1 ที่วัยรุ่นนิยมเลยนะคะ
สำหรับสาว ๆ วัยรุ่นการมีสุขภาพผิวที่ดี ไม่ว่าจะแต่งแนวไหนหรือใช้สีไหนก็สามารถทำให้เราดูดีได้ หากผิวของเราสะอาดและชุ่มชื้นเราจะสามารถเพลิดเพลินไปกับเครื่องสำอางได้ดี ฉะนั้นทีมงานมายเบสท์จึงอยากให้เพื่อน ๆ ให้ความสำคัญกับการดูแลผิวมาก ๆ นะคะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับบทความบลัชออนยอดนิยมสำหรับวัยรุ่น ทั้งแบบผง, ลิควิด และเจล มีตัวไหนถูกใจบ้างรึเปล่าเอ่ย? คงจะเห็นกันแล้วนะคะว่าบลัชออนแต่ละตัวก็มีคุณสมบัติที่โดนเด่นแตกต่างกันไป หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ตัดสินใจเลือกซื้อบลัชออนได้ถูกใจและเหมาะสมกับตัวเองนะคะ
และนอกจากจะแต่งแต้มสีสันบนแก้มสวย ๆ ของเราแล้วก็อย่างลืมดูแลผิวหน้าด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางที่เหมาะสมกับเราด้วยนะคะ หน้าของเราจะได้สะอาดและไม่มีสารเคมีตกค้างค่ะ