คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากjblหูฟังมีสาย มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง jblหูฟังมีสาย และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา jblหูฟังมีสาย วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ jblหูฟังมีสายยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!
2. หูฟังบลูทูธ JB_L Tune 230NC TWS หูฟังบลูทูธ True Wireless Earbuds Bluetooth Microphone Earbuds For IOS/Android/Ipad หูฟังกันน้ําแบบสปอร์ตไร้สาย มีการร
หูฟัง บลูทูธ ไร้ สาย
3. JBL Tune Flex หูฟังไร้สาย true wireless
หูฟังจากทาง JBL ในรุ่น Tune Flex นั้นเป็นหูฟังที่มีดีไซน์โดดเด่นสามารถเป็นได้ทั้งหูฟังสไตล์ in ear และสไตล์ earbuds มาพร้อมกับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ทั้งวันอีกด้วยครับ การออกแบบ ในส่วนของการออกแบบนั้นหูฟัง JBl Tune Flex จะมีดีไซน์ที่ไม่ซ้ําใครโดยสามารถเป็นได้ทั้งหูฟังสไตล์ in ear และสไตล์ earbuds ในตัวเดียวกันตัวบอดี้ของหูฟังถูกออกแบบมาให้สวมใส่ได้อย่างสบาย พกพาสะดวก ตัวหูฟังใช้การควบคุมด้วยระบบสัมผัสและทําให้ไม่มีปุ่มกดใดๆ บนตัวหูฟัง โดยในกล่องจะมาพร้อมกับจุกหูฟัง 2 สไตล์และเคสสําหรับจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่ครับ อุปกรณ์ภายในกล่อง - JBL Tune Flex - เคสสําหรับจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่ - ชุดจุกหูฟังซิลิโคน - จุก open eartip - สาย USB - คู่มือการใช้งาน การใช้งาน ในส่วนของการใช้งานนั้นหูฟัง JBL Tune Flex จะใช้การเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วด้วย Bluetooth 5.2 โดยสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและเมื่อใช้งานร่วมกับเคสจะสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 32 ชั่วโมง ตัวหูฟังยังรองรับการ Fast Charge ที่ชาร์ตเพียง 10 นาทีก็สามารถใช้งานได้นานถึง 2 ชั่วโมง (ระยะเวลาของการใช้งานจะขึ้นอยู่กับระดับเสียงและฟังก์ชันที่ใช้งาน) ภายในของหูฟัง JBL Tune Flex จะใช้ไดรเวอร์ขนาด 12 มม. ที่จากแบรนด์ปรับปรุงขึ้นมาทําให้สามารถตอบสนองความถี่ต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้รายละเอียดเสียงที่ครบถ้วน มาพร้อมกับไมโครโฟนถึง 4 ตัว ทําให้สามารถรับเสียงสนทนาได้อย่างคมชัด จุดเด่นของหูฟัง JBL Tune Flex ก็คือระบบตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation ที่สามารถตัดเสียงรบกวนต่างๆจากภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ตัวหูฟังยังมีฟังก์ชัน Ambient Aware สําหรับดูดเสียงจากภายนอกเข้ามาระหว่างใช้งาน ทําให้ผู้ใช้งานสามารถได้ยินเสียงรอบตัวแม้จะไม่ได้ถอดหูฟังออกก็ตาม นอกจากนี้ยังหูฟังยังรองรับการปรับแต่งฟังก์ชันต่างๆได้ผ่านแอป JBL Headphones App ได้อีกด้วย ในส่วนของการป้องกันน้ํานั้น JBL Tune Flex สามารถป้องกันน้ําได้ในระดับ IPX4 ทําให้สามารถใส่ออกกําลังกายหรือทํากิจกรรมกลางแจ้งได้แต่อย่างไรก็ตามตัวหูฟังจะไม่สามารถใส่อาบน้ําหรือใส่ว่ายน้ําได้ครับ คุณภาพเสียง ในส่วนคุณภาพเสียงนั้น JBL Tune Flex นั้นจะแยกเสียงเป็นสองแบบ แบบที่ 1 ในสไตล์ In-Ear จะให้เบสที่มาเป็นลูกใหญ่มีความกระแทกกระทั้นดุดันแต่คุมมวลเสียงได้ดีไม่ล้นไปกวนเสียงกลาง ให้เสียงร้องที่ติดอุ่นเล็กน้อยมีน้ํามีนวล เวทีเสียงขนาดปานกลางและให้เสียงสูงมีความสดสว่างฟังเพลงได้สนุกคึกคักเลยทีเดียวครับ แบบที่ 2 ในสไตล์ของ Earbuds ถือว่าเป็นรุ่นที่ให้เสียงได้กว้างขวาง รู้สึกโปร่งไม่อับทึบ เสียงเบสเก็บตัวไวขึ้นกว่าแบบ In-Ear แต่ยังคงมีแรงปะทะที่มากพอสําหรับหูฟัง Earbuds จึงไม่รู้สึกขาดเบสไป เสียงเครื่องสายชัดเจนขึ้นใสขึ้น เสียงสูงลดความสดลงเล็กน้อยแต่ได้ความเป็นธรรมชาติเพิ่มขึ้นครับ โดยรวมแล้วไม่ว่าจะใช้งานในสไตล์ของหูฟัง In-Ear หรือ Earbuds ก็ให้เสียงที่เหมาะสมและฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมได้อย่างครบครันสุด ๆ เลยทีเดียว สรุปเกี่ยวกับหูฟัง JBL Tune Flex โดยรวมแล้วหูฟัง JBL Tune Flex เป็นหูฟังที่มีดีไซน์การออกแบบที่โดดเด่นไม่ซ้ําใคร ตัวหูฟังสามารถเป็นได้ทั้งหูฟังสไตล์ in ear และสไตล์ earbuds ในตัวเดียวกัน มาพร้อมกับฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation และฟังก์ชัน Ambient Aware สําหรับดูดเสียงจากภายนอกเข้ามาระหว่างการใช้งานโดยไม่ต้องถอดหูฟังออก และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ท
4. JBL Everest Elite 100 BT หูฟังไร้สาย
JBL Everest Elite 100 BT หูฟังบลูทธไร้สายที่ออกแบบมาให้ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมขนาดไดรเวอร์ 13.5 มม. ถ่ายทอดคุณภาพเสียงออกมาได้อย่างทรงพลังและระบบฟังก์ชั่น ActiveNoise Cancelling ที่สามารถตัดเสียงรบกวนได้สูงถึง 90% รูปทรงการออกแบบที่ทันสมัย โดยในส่วนของก้านคล้องคอมีน้ําหนักเบา รองรับกับสรีระการสวมใส่ได้เป็นอย่างดี เบาสบาย และไม่ทําให้รู้สึกอึดอัดเลยล่ะครับ มีสีให้เลือกกันสองสี คือสีขาว และสีดําครับ ส่วนน้ําเสียงนั้นจะออกทางโทนจะแจ้งหัวโน็ตชัดเจน ด้วยเนื้อเบสที่ลูกโตพอสมควรแต่ไม่บวมเบลอรบกวนย่านอื่นครับ อิมแพคแรงปะทะหนักแน่น ดีฟเบสลงลึกพอประมาณ ย่านเสียงปลายแหลมคมชัดจัดจ้าน เสียงร้องชัดถ้อยชัดคํามีเนื้อเสียงที่ดี กลางแหลมเปิดพอสมควรครับ เวทีเสียงกว้างขนาดพอตัวไม่โอ่โถ่งหรือรู้สึกคับแคบ โดยรวมเจ้า EVEREST ELITE 100 BT ฟังมันส์สนุกรุกเร้าทีเดียวครับ ไม่ว่าจะเลือกแนว POP, ROCK, R&B, หรือ EDM ก็ให้เสียงที่น่าประทับใจมากเลยล่ะครับผม โดยสินค้ารับประกัน 1 ปีครับ สําหรับท่านใดที่สนใจสามารถแวะเข้ามาทดลองฟังได้ที่ร้านมั่นคงแก็ดเจ็ททุกสาขาครับผม JBL
5. หูฟังไร้สาย หูฟังบลูทูธ เอียร์บัดไร้สายที่แท้จริง หูฟัง Tune 230NC ตัดเสียงรบกวน กันน้ํา กันเหงื่อ ใส่สบายตลอดวัน
หูฟังบลูทูธเบสแน่นๆ คุณภาพเสียง. หูฟัง bluetooth ไร้สาย เบสหนักๆ. หูฟังไร้สายแท้ เบสหนักๆ. หูฟัง bluetooth เบสดีๆ. หูฟังบลูทูธ เบสหนักๆ
6. JBL Tour Pro 2 หูฟังไร้สาย เคสหน้าจอสัมผัส
หูฟังไร้สายจากทาง JBL ในรุ่น Tour Pro 2 เป็นหูฟัง turewireless ที่มีดีไซน์การออกแบบตัวเคสของหูฟังที่ไม่เหมือนเคยมีในหูฟังรุ่นไหนมาก่อนโดยจะมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสสําหรับการควบคุมตัวหูฟัง หรือการตั้งค่าต่างๆได้ผ่านที่ตัวเคสเลยครับ การออกแบบ ในส่วนของการออกแบบนั้น JBL Tour Pro 2 จะเป็นหูฟัง in ear ชนิด turewireless โดยตัวบอดี้ของหูฟังจะออกแบบมาให้มีขนาดที่พอเหมาะสวมใส่สบาย และมีน้ําหนักที่เบา โดยตัวเคสนั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 1.45 นิ้ว บนตัวเคส ที่ตัวหูฟังควบคุมผ่านการสัมผัสทําให้ไม่มีปุ่มกดใดๆอยู่บนตัวหูฟัง และยังมาพร้อมกับสีให้เลือกด้วยกันสองสีได้แก่สี Black และสี Champagne อุปกรณ์ภายในกล่อง - JBL Tour Pro 2 - เคสสําหรับจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่ - ชุดจุกหูฟัง - สาย USB - คู่มือการใช้งาน การใช้งาน ในส่วนของการใช้งานนั้นหูฟัง JBL Tour Pro 2 จะใช้การเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วด้วย Bluetooth 5.3 โดยตัวหูฟังจะมาพร้อมแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 10 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและเมื่อใช้งานร่วมกับเคสจะสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 40 ชั่วโมง (ระยะเวลาการใช้งานจะแตกต่างกันตามฟังก์ชันและระดับเสียงที่ใช้งาน) ภายในของหูฟัง JBL Tour Pro 2 จะใช้ไดรเวอร์ขนาด 10mm ที่สามารถตอบสนองต่อเสียงต่างๆได้เป็นอย่างดี ให้รายละเอียดเสียงที่ชัดเจนและมาพร้อมกับไมโครโฟนถึง 6 ตัวที่ค่อยตัดเสียงรบกวนระหว่างการสนทนาทําให้สามารถรับเสียงพูดได้อย่างชัดเจน โดยจุดเด่นของหูฟังนั้นก็คือ ตัวเคสที่มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสนั่นเองครับ โดยที่ตัวหน้าจอจะรองรับทั้งการควบคุมหูฟัง การตั้งค่าต่างๆ การตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่และการแสดงการแจ้งเตือนของมือถือ นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนภาพพื้นหลังบนหน้าจอตัวเคสได้ตามที่ต้องการอีกด้วยครับ นอกจากนี้ JBL Tour Pro 2 ยังมาพร้อมฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ที่สามารถตัดเสียงรบกวนต่างๆ จากภายนอกได้เป็นอย่างดี, ฟังก์ชัน Ambient สําหรับดูดเสียงจากภายนอกเข้ามาระหว่างใช้งาน ทําให้ผู้ใช้งานสามารถได้ยินเสียงรอบตัวแม้จะไม่ได้ถอดหูฟังออกก็ตาม และยังมาพร้อมกับฟังก์ชัน TalkThru สําหรับการรับเสียงพูดเข้ามาภายในหูฟัง และสําหรับการกันน้ําหูฟัง JBL Tour Pro 2 สามารถกันน้ําได้ในระดับ IPX5 ที่สามารถโดนเหงื่อและละอองน้ํากระเด็นใส่ได้ทําให้สามารถใส่ออกกําลังกายและทํากิจกรรมกลางแจ้งได้ครับ โดยสามารถปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆได้ผ่านแอป JBL Headphone ได้เลยครับ คุณภาพเสียง ในส่วนของเรื่องเสียงนั้น JBL Tour Pro 2 สําหรับในรุ่นนี้นับว่าเป็นรุ่นระดับ Pro จากทาง JBL ฉะนั้นเรื่องเสียงทางแบรนด์ได้จูนมาอย่างดีมาก ๆ สิ่งแรกที่จะสัมผัสได้เลยก็คือเสียงร้องที่มีตัวมีตนไม่พุ่งมาด้านหน้ามากจนเกินไปแต่เป็นเสียงร้องที่ฟังง่ายชัดเจนดี เสียงเบสเนื้อแน่นปะทะได้แรงตามสไตล์ของ JBL แต่ตัวเบสจะชัดไม่คลุมเครือถือว่าเป็นเสียงเบสที่มีคุณภาพเลยทีเดียว เสียงกีตาร์มีอิมเมจชัดเจนฟังเพลงที่เป็นกีตาร์โปร่งก็สะอาดใส พอฟังเพลงร็อกก็ได้เสียงกีตาร์ที่ดิบ ๆ ฟังสนุกเลยล่ะครับ ในย่านเสียงสูงแตกต่างจาก JBL รุ่นอื่น ๆ มาก เพราะลอยขึ้นได้สุดโดยไม่ฟุ้ง มีเนื้อเสียงที่ดีไม่บางเลยแม้แต่น้อย โดยรวมถือว่าเป็น JBL ที่เสียงดีมาก ๆ สมกับเป็นรุ่นสูงของค่าย แฟน ๆ สามารถคาดหวังรายละเอียดของเจ้า Tour Pro 2 ตัวนี้ได้เลย อยากจะฟังแนวเพลงแบบไหนก็ให้เสียงออกมาดีจริง ๆ ครับ สรุปเกี่ยวกับหูฟังไร้สาย JBL Tour Pro 2 โดยรวมแล้วหูฟังไร้สาย JBL Tour Pro 2 เป็นหูฟังที่มีดีไซน์การออกแบบที่ไม่ซ้ําใคร โดยตัวเคสจะมาพร้อมหน้
7. JBL Soundgear Sense หูฟัง truewireless
หูฟังจากทาง JBL ในรุ่น Soundgear Sense เป็นหูฟังชนิด Open Ear ที่ออกแบบมาให้สวมใส่สบาย สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก โดยตัวหูฟังยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี OpenSound ที่สามารถให้เสียงต่างๆได้อย่างครบถ้วน และยังสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว การออกแบบ ในส่วนของการออกแบบนั้นหูฟัง JBL Soundgear Sense จะเป็นหูฟังที่มีดีไซน์การออกแบบที่แตกต่างจากรุ่นอื่นๆของทางแบรนด์ครับโดยตัวไดรเวอร์จะอยู่ด้านข้างของตัวใบหูแทน ทําให้สามารถสวมใส่ได้สบายสุดๆ และภายในกล่องจะมาพร้อมสายสําหรับคล้องตัวหูฟังสําหรับการใส่ออกกําลังทําให้มั่นใจได้ว่าตัวหูฟังจะไม่หลุดร่วงระหว่างการออกกําลังกายแน่นอนครับ อุปกรณ์ภายในกล่อง - JBL Soundgear Sense - เคสสําหรับจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรี่ - สายคล้องคอ - สาย USB - คู่มือการใช้งาน การใช้งาน ในส่วนของการใช้งานนั้นหูฟัง JBL Soundgear Sense จะเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วผ่านทาง Bluetooth 5.3 โดยสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งและเมื่อใช้งานร่วมกับตัวเคสจะสามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังรองรับ quick charge ที่ชาร์จเพียง 15 นาทีก็สามารถใช้งานได้นานถึง 4 ชั่วโมง ภายในของหูฟัง JBL Soundgear Sense จะใช้ไดรเวอร์ขนาด 16.2mm ที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษ ด้วยอัลกอริธึมในการให้เสียงอันเป็นเอกลักษณ์ โดยให้เสียงเบสที่หนักแน่น ฟังได้สนุก และมาพร้อมกับเทคโนโลยี OpenSound ที่จะส่งเสียงไปยังภายในหูของตรง ทําให้สามารถได้ยินเสียงต่างๆได้อย่างครบถ้วนครับ และในส่วนของการตั้งค่าต่างๆของตัวหูฟัง JBL Soundgear Sense สามารถทําได้ผ่านทางตัวแอป My JBL Headphones ทั้งการควบคุม การเพิ่ม/ลดระดับเสียง การตั้งค่า EQ และอื่นๆอีกมากมายได้ที่แอปได้เลยครับ ในส่วนของการป้องกันน้ํานั้นหูฟัง JBL Soundgear Sense จะออกแบบมาให้ทนน้ําได้ในระดับ IP54 ที่สามารถโดนน้ํากระเด็นใส่ได้เล็กน้อยจึงสามารถนําออกไปใช้ทํากิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกําลังกายได้ แต่อย่างไรก็ตามตัวหูฟังจะไม่สามารถใส่อาบน้ําหรือว่ายน้ําได้ครับ สรุปเกี่ยวกับหูฟังไร้สาย JBL Soundgear Sense โดยรวมแล้วหูฟังไร้สาย JBL Soundgear Sense เป็นหูฟังที่มีดีไซน์การออกแบบ Open Ear ที่สวมใส่ได้สบาย โดยไม่รู้สึกอึดอัด ตัวหูฟังจะใช้ไดรเวอร์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ที่จะให้เสียงเบสอันเป็นเอกลักษณ์ อย่างได้เต็มที่และยังมาพร้อมกับสายคล้องคอสําหรับการใช้ในการออกกําลังกายได้อีกด้วยครับ ข้อมูลจําเพาะ JBL