รีวิว 7 หนังสือเล่นหุ้น ใช้จริง ใช้ดี จนต้องซื้อซ้ำ อัพเดทล่าสุดปี 2567

เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่อยากซื้อออนไลน์แต่ไม่อยากไปซื้อเองที่ห้าง และที่สำคัญสินค้าบางแบรนด์ที่ขาย ราคาถูกกว่าเมื่อสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ สุดคุ้ม ดีลที่ดีที่สุดมาแล้ว ช้อปเพลินๆ สินค้าลดราคา สูงสุดและคูปองลดมากมาย ดีลสุดพิเศษ
สินค้ามาใหม่ ราคาถูกมาก เราแนะนำเลยเจ้านี้ หนังสือเล่นหุ้น  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง หนังสือเล่นหุ้น  ไป ถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง สินค้าดีๆ ราคาถุก ส่งไว ของพรีเมี่ยม ได้ลองแล้วนับว่าดีเลยทีเดียว ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง

     
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากหนังสือเล่นหุ้น มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง หนังสือเล่นหุ้น และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา หนังสือเล่นหุ้น วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ หนังสือเล่นหุ้นยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!

การลงทุนในหุ้นหรือที่หลายคนเรียกกันแบบง่าย ๆ ว่า "การเล่นหุ้น" นั้น ถือเป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ตลาดหุ้นไทยไม่ได้เป็นของใหม่แต่อย่างใด หากแต่เปิดให้นักลงทุนเข้ามาทำการซื้อขายอย่างยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2518 มาจนถึงปัจจุบัน ก็ถือว่าครบรอบ 45 ปีแล้ว ซึ่งแน่นอนว่า ตลาดหุ้นนั้นก็ไม่ได้มีแต่ให้กำไรกับผู้ที่ลงทุนทุกราย แต่ยังมีผู้ที่ขาดทุนหรือมีคนจำนวนมากที่ถึงขั้นหมดเนื้อหมดตัวออกจากตลาดหุ้นไปก็มีเช่นกัน


ดังนั้น การเล่นหุ้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องอาศัยองค์ความรู้เหมาะสมที่จะช่วยให้คุณสามารถเอาตัวรอดได้ โดยแหล่งความรู้ที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดก็คือ "การอ่านหนังสือ" นั่นเองครับ อย่างไรก็ตาม หนังสือที่สอนเกี่ยวกับการเล่นหุ้นก็มีมากมาย หลายต่อหลายคน โดยเฉพาะมือใหม่ของวงการนี้ จึงไม่ค่อยแน่ใจว่าควรจะเลือกหนังสือที่สอนเกี่ยวกับการเล่นหุ้นอย่างไรดีจึงจะได้ความรู้และเพิ่มประสิทธิภาพฝีมือการลงทุนให้ตัวเองได้มากที่สุด ในบทความนี้ เราจึงจะมาแนะนำถึงวิธีการเลือกหนังสือเล่นหุ้นให้ตอบโจทย์กับการลงทุนของคุณ ผ่านหัวข้อ "วิธีการเลือกหนังสือเล่นหุ้น" นอกจากนี้ เรายังได้เตรียม "10 อันดับ หนังสือเล่นหุ้น ยอดนิยม" ที่หาซื้อได้ง่าย ๆ จากร้านค้าออนไลน์มาแนะนำกันอีกด้วยครับ

ในปัจจุบันนี้ มีหนังสือเล่นหุ้นวางจำหน่ายอยู่มากมายหลายต่อหลายเล่ม ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อหนังสือเล่นหุ้นสักเล่ม อย่าลืมอ่านวิธีการเลือกต่อไปนี้ให้ละเอียดนะครับ

แนวทางการวิเคราะห์หุ้นนั้นแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง คือ "แนวทางการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน" และ "แนวทางการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค" โดยไม่ว่าจะแนวทางไหนก็ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน และมีหนังสือที่เรียบเรียงเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านี้วางจำหน่ายหลายเล่มเลยทีเดียวครับ ซึ่งแต่ละแนวทางจะมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

"การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน" เป็นการวิเคราะห์หุ้นโดยอาศัยปัจจัยด้านต่าง ๆ ที่มีผลต่อค่าตอบแทน, ความเสี่ยงและมูลค่าของหุ้น ซึ่งปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นในการนำมาวิเคราะห์ ได้แก่ สภาพเศรษฐกิจของทั้งในและต่างประเทศ, การแข่งขันกันของภาคอุตสาหกรรมและข้อมูลพื้นฐานในด้านต่าง ๆ ของบริษัทจดทะเบียน เช่น การดูงบกำไรขาดทุน, การดูอัตราส่วนทางการเงิน, การดูกระแสเงินสดของบริษัท เป็นต้น โดยเราจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปคิดคำนวณหาโอกาสในการเติบโตของบริษัทต่าง ๆ เพื่อใช้ในการคัดเลือกหุ้นสำหรับลงทุนอีกทีหนึ่ง


การลงทุนเชิงปัจจัยพื้นฐานนั้นนิยมใช้เป็นการลงทุนแบบระยะยาวและมักจะมีการขายหุ้นทิ้งก็ต่อเมื่อเมื่อหุ้นนั้นมีพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ไม่ดี เช่น มีบริษัทอื่นที่เริ่มได้เปรียบในด้านการแข่งขันมากกว่าปรากฎตัวขึ้น หุ้นที่ถืออยู่มีราคาแพงกว่ามูลค่าที่ประเมินไว้ บอร์ดบริหารชุดเดิมประกาศลาออก พบการตกแต่งบัญชีบริษัท การประกอบธุรกิจที่ขาดธรรมภิบาล เป็นต้น ซึ่งข้อดีของการลงทุนตามปัจจัยพื้นฐานก็คือ การซื้อขายจะไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องของความยากลำบากในการวิเคราะห์ เพราะต้องอาศัยข้อมูลจำนวนมากในการวิเคราะห์นั่นเองครับ

"การวิเคราะห์ทางเทคนิค" เป็นการวิเคราะห์หุ้นจากการใช้ข้อมูลเชิงสถิติในอดีต มาแสดงเป็นกราฟราคาของหุ้นแต่ละตัวเพื่อคาดการณ์กราฟต่าง ๆ ในอนาคตว่า จะมีแนวโน้มแบบใด จะมีการฟอร์มตัวในรูปแบบไหนและอาจเกิดสัญญาณซื้อหรือขายแบบใดได้บ้าง โดยจะมีการนำเครื่องมืออินดิเคเตอร์หลายรูปแบบเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ร่วมด้วย ตัวอย่างเช่น Moving Average, MACD, RSI เป็นต้น


การวิเคราะห์ทางเทคนิคนี้สามารถใช้ได้ทั้งการลงทุนในแบบระยะสั้นและยาว อีกทั้งยังเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมอย่างมากเนื่องจากวิเคราะห์ได้ง่ายกว่าแบบปัจจัยพื้นฐาน ช่วยให้รู้ถึงจังหวะที่เหมาะสมในการลงทุน แต่ก็มีข้อเสีย คือ มีการเกิดสัญญาณซื้อขายที่บ่อยครั้งกว่าและหากไม่มีประสบการณ์ที่มากพอก็อาจทำให้เกิดความผิดพลาดที่มากกว่าได้

การลงทุนแต่ละประเภทนั้นมีระยะเวลาที่แตกต่างกันไป คือ "แบบระยะสั้น" และ "แบบระยะยาว" ซึ่งเราคงไม่สามารถบอกได้ว่าแบบไหนจะดีกว่ากัน เนื่องจากแต่ละคนมีความถนัดในระยะเวลาการลงทุนที่แตกต่างกัน คุณจึงควรเลือกหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเทคนิคของระยะเวลาในการลงทุนที่เข้ากันได้ดีกับไลฟ์สไตล์และความถนัดของตัวคุณเองครับ

การลงทุนระยะยาว คือ การซื้อและถือหุ้นตัวนั้นจนกว่าจะมีสัญญาณในการขายเกิดขึ้น เช่น พื้นฐานบริษัทเปลี่ยนไป หรือกราฟระยะยาวเปลี่ยนแนวโน้ม เป็นต้น โดยการลงทุนประเภทนี้มีข้อดี คือ จำนวนซื้อขายที่น้อยครั้งกว่า ทำให้มีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ลดการตัดสินใจที่ผิดพลาด และเพิ่มโอกาสการทำกำไรที่มากขึ้น แต่ก็มีข้อเสีย คือ หากเลือกถือหุ้นผิดตัวก็อาจจะเสียหายหนัก และในช่วงที่ถือหุ้นไว้หากเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำ หรือไม่ค่อยมีปริมาณการซื้อขาย ทำให้ราคาหุ้นไม่ค่อยขยับ เงินลงทุนก็อาจจะกลายเป็นเงินจมแทนที่จะสามารถแสวงหากำไรจากหุ้นตัวอื่นได้ในระยะเวลารวดเร็ว

"การลงทุนระยะสั้น" เป็นการซื้อและขายหุ้นเพื่อเก็งกำไรในหุ้นหลายตัวหรือหลายครั้งภายในระยะเวลาไม่นาน เช่น ภายในวัน เดียวหรือสองสามวัน โดยการลงทุนระยะสั้นมีข้อดี คือ ช่วยเพิ่มโอกาสในการแสวงหากำไรได้อย่างรวดเร็วและไม่ต้องทนถือหุ้นที่ราคาไม่ขยับให้รู้สึกอึดอัด แต่ก็มีข้อเสีย คือ มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการซื้อขายที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง อีกทั้งยังต้องวิเคราะห์หุ้นจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งก็มีโอกาสผิดพลาดได้ง่าย โดยส่วนมาก ผู้ที่เล่นหุ้นแบบการเก็งกำไรจะต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญมากพอสมควรจึงจะทำผลตอบแทนสูงได้ และไม่ขาดทุนหรือขาดทุนน้อยที่สุด

รูปแบบของงานเขียนก็ถือเป็นอีกสิ่งสำคัญที่คุณต้องอ่านให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อหนังสือเล่นหุ้น โดยรูปแบบงานเขียนต่าง ๆ จะมี 3 รูปแบบดังต่อไปนี้

ด้วยความที่การลงทุนในหุ้นนั้นมีต้นกำเนิดมาจากต่างประเทศ นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า องค์ความรู้ที่เกี่ยวกับการลงทุนจำนวนมากก็ถือกำเนิดมาจากต่างประเทศด้วยเช่นกัน อีกทั้งต่างประเทศยังมีนักลงทุนที่เก่งและประสบความสำเร็จในระดับโลกอย่างมากมาย เช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffet), ปีเตอร์ ลินช์ (Peter Lynch) เป็นต้น ดังนั้น หากคุณต้องการที่จะเข้าถึงแก่นแท้ของการลงทุนในหุ้น จึงควรลองอ่านหนังสือหุ้นที่มีเนื้อหาจากทางต่างประเทศเสริมด้วยนะครับ


ในปัจจุบัน ก็มีผลงานแปลจากต่างประเทศหลายเล่มวางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป คุณสามารถหามาอ่านได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาในการแปลด้วยตนเอง แถมยังคงไว้ซึ่งองค์ความรู้ที่ครบครัน ใครที่อยากได้ความเป็นออริจินัลในด้านการลงทุนต้องไม่พลาดงานประเภทนี้เลยครับ

สำหรับคนที่ต้องการความแม่นยำของค่าอินดิเคเตอร์ในกราฟมากที่สุด หรือคนที่ต้องการนำตัวเลขทางปัจจัยพื้นฐานไปคำนวณสูตรทางการเงินต่าง ๆ เราขอแนะนำหนังสือเล่นหุ้นที่เน้นหนักไปในเรื่องของทฤษฎีและองค์ความรู้ในการใช้เครื่องมือทั้งทางเทคนิคและปัจจัยพื้นฐานครับ


โดยงานเขียนประเภทนี้จะสอนทั้งวิธีการคำนวณ, วิธีการใช้งาน, วิธีการประยุกต์ใช้ รวมไปถึงมีตัวอย่างทั้งแบบที่สมมุติขึ้นและแบบที่เคยเกิดขึ้นจริงมาแล้ว เพื่อใช้ประกอบการสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้อ่านได้เป็นอย่างดี เพื่อที่เราจะได้มีพื้นฐานในการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่จำเป็นและสามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วในทุกการวิเคราะห์อีกด้วยครับ

แม้จะมีความรู้ความเข้าใจในระดับเดียวกัน แต่หากความรู้นั้นถูกใช้โดยคนละคนก็อาจให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันได้ นี่คือเรื่องจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ในการลงทุนหุ้น เพราะถึงแม้จะมีหนังสือที่สอนเล่นหุ้นออกจำหน่ายมากมาย แต่คนที่ประสบความสำเร็จจริงกลับมีน้อย ดังนั้น หากเราได้เรียนรู้ประสบการณ์หรือกลยุทธ์ของคนที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีมากเลยทีเดียวครับ


ด้วยเหตุนี้ งานเขียนในรูปแบบที่เป็นการเล่าประสบการณ์, การถ่ายทอดกลยุทธ์ หรือการแชร์แนวความคิด จึงเป็นงานเขียนอีกประเภทที่ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะเหมือนเป็นทางลัดของคนที่ประสบความสำเร็จแล้วมาเล่าให้เราฟังโดยตรงนั่นเอง โดยเฉพาะกับคนที่มีพื้นฐานแน่นแล้วอยากเพิ่มไอเดียการเทรดหุ้นดู งานเขียนประเภทนี้เหมาะมากเลยครับ

ในสมัยก่อนนั้นหนังสือหุ้นดูเป็นอะไรที่เข้าใจยากมาก เพราะมีแต่กราฟ, มีแต่สูตรตัวเลข หรือมีแต่ตัวหนังสือ แต่ในปัจจุบัน การนำเสนอเนื้อหาสำหรับหนังสือเล่นหุ้นถือว่ามีความหลากหลายมาก ซึ่งถือเป็นเรื่องดีเพราะทำให้หนังสือหุ้นสามารถเข้าถึงได้ง่ายในหลายช่วงวัย ตัวอย่างเช่น มีหนังสือหุ้นที่มีเนื้อหาเป็นภาพการ์ตูน ช่วยให้ดูน่าสนใจ แถมยังอ่านแล้วเข้าใจได้ง่าย หรือมีเนื้อหาที่เน้นรูปตัวอย่าง ช่วยให้มองเห็นภาพอย่างชัดเจนและช่วยให้คุณสามารถประยุกต์ใช้ความรู้ได้ดีขึ้น หากใครชอบความรู้แน่น ๆ หนังสือที่มีเนื้อหาเป็นตัวหนังสือล้วน ๆ ก็ยังมีจำหน่ายอยู่เช่นกัน ถือว่าเป็นความโชคดีของนักลงทุนสมัยใหม่จริง ๆ ครับ ที่ได้มีทางเลือกในการศึกษาหาความรู้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการ

มาถึง 10 อันดับหนังสือเล่นหุ้นคุณภาพดีที่เราได้ทำการคัดเลือกมานำเสนอกันแล้วนะครับ โดยเนื้อหาในแต่ละเล่มที่เราเลือกมานั้น มีทั้งความหลากหลาย อ่านเข้าใจง่าย แถมยังซื้อได้จากร้านค้าออนไลน์อีกด้วย เชิญเลือกซื้อเลือกอ่านกันได้เลยครับ

ใครเบื่อหนังสือหุ้นที่ตัวหนังสือเยอะ เข้าใจยาก เราขอแนะนำหนังสือเล่มนี้ครับ ด้วยเนื้อหาที่ถ่ายทอดผ่านตัวการ์ตูนสุดน่ารัก แบ่งตัวละครอย่างชัดเจนแทนนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ เช่น เม่า แทนนักลงทุนหน้าใหม่ หรือนักลงทุนรายย่อย เป็นต้น ช่วยให้อ่านได้เข้าใจง่ายสุด ๆ แถมด้วยเนื้อหาที่สนุกสนาน มีมุกตลกสอดแทรกตลอด ผสมผสานสาระน่ารู้ในการลงทุนเป็นอย่างดี ก็ช่วยให้อ่านได้เรื่อย ๆ โดยไม่เบื่อ วัยรุ่นอ่านได้ ผู้ใหญ่อ่านดีครับ

งบการเงินฟังดูเป็นเรื่องยากสำหรับหลาย ๆ คน ยิ่งหากเป็นการอ่านงบการเงินเพื่อเอาไปลงทุนหุ้นแล้วล่ะก็ บอกเลยว่ายิ่งยาก แต่หากคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ งบการเงินอาจจะง่ายกว่าเดิมเยอะเลยทีเดียว ด้วยเนื้อหาสำหรับการลงทุนหุ้นโดยตรง สอดแทรกตัวอย่างต่าง ๆ เพื่อให้อ่านแล้วเข้าใจได้ง่ายขึ้น แถมยังพิมพ์ 4 สีอย่างดี ช่วยกระตุ้นความน่าอ่านได้เป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจในการฝึกอ่านงบการเงินสุด ๆ ครับ

คลื่นเอลเลียต ถือเป็นศาสตร์ชั้นสูงในการวิเคราะห์เชิงเทคนิค เพราะมีวิธีการนับคลื่นที่มีหลักการซับซ้อนอย่างมาก แต่หากคุณได้อ่านหนังสือเล่มนี้ คุณจะเข้าใจการนับคลื่นได้ง่ายขึ้น ด้วยการอธิบายเรื่องการนับคลื่นแบบผสมผสานทั้งเชิงหลักการและประสบการณ์จากผู้เขียนที่คร่ำหวอตในวงการการดูกราฟมานานนับสิบปี นอกจากนี้ ในตัวเล่มยังสอนการใช้ฟิโบนัชชี เครื่องมือที่จะช่วยให้วัดเป้าหมายของราคาหุ้นได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังมีตัวอย่างกราฟจริงสอดแทรกเพื่อให้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายกว่าเดิมอีกด้วย ครบครันจริง ๆ ครับ

ถือเป็นหนังสือที่เบิกเนตรให้กับนักลงทุนที่สนใจเรื่องกราฟอย่างแท้จริง ด้วยเนื้อหาสาระด้านกราฟเทคนิคอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นทฤษฎีดาว, การวาดเส้นแนวโน้ม, รูปแบบราคา, รวมไปถึงเครื่องมือทางเทคนิคอีกหลากหลายชนิด อัดแน่นด้วยสูตรคำนวณ, วิธีการใช้งาน และภาพตัวอย่างประกอบในแต่ละหัวข้อ ช่วยให้คุณสามารถนำไปใช้งานได้ในชีวิตจริง แถมยังให้ข้อมูลที่ช่วยวิเคราะห์ว่าควรซื้อขายหุ้นเมื่อไรอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการใช้ภาษาสื่อสารที่เข้าใจได้ง่าย ถือว่าเหมาะกับทั้งนักลงทุนหน้าใหม่และหน้าเก่าจริง ๆ ครับ

สำหรับสายปัจจัยพื้นฐาน นี่คือหนังสือหุ้นอีกหนึ่งเล่มที่คุณต้องไม่พลาด เพราะอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาที่ใคร ๆ ก็อยากรู้ ไม่ว่าจะเป็น ทำอย่างไรถึงจะได้หุ้นในราคาที่ถูก, หุ้นบริษัทที่ดีมีรูปแบบอย่างไร, หลักการลงทุนระยะยาวเป็นอย่างไร, รวมไปถึงกลยุทธ์การบริหารพอร์ตการลงทุนที่ถูกเรียบเรียงและถ่ายทอดอย่างดีจากคุณกวี ชูกิจเกษม นักวิเคราะห์สายปัจจัยพื้นฐานระดับแนวหน้า ที่ไม่ว่าใครที่เล่นหุ้นก็ต้องรู้จักอย่างแน่นอนครับ

CANSLIM ถือเป็นระบบที่มีชื่อเสียงอย่างมากในวงการการลงทุนหุ้น เพราะเป็นการประยุกต์ใช้ทั้งศาสตร์ในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิคมาผสมผสานกัน ช่วยให้สามารถซื้อหุ้นที่มีคุณสมบัติครบครัน และเหมาะมากกับการถือลงทุนในระยะยาว โดยแนวคิดนี้ถูกคิดค้นโดยนักลงทุนชื่อดังจากต่างประเทศ William J. O'Neil ซึ่งเป็นผู้ที่ที่เขียนหนังสือเล่มนี้ด้วยตนเอง และได้รับการแปลเป็นไทยให้อ่านง่ายขึ้น หากคุณกำลังหาระบบคัดกรองหุ้นคุณภาพสูง ลองอ่านในหนังสือนี้ได้เลยครับ รับรองว่าตอบโจทย์แน่นอน

สำหรับมือใหม่ที่สนใจจะลองเทรดหุ้นออนไลน์ แต่ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นอย่างไรดี นี่คือหนังสือเล่มที่ตอบโจทย์อย่างมากครับ ด้วยเนื้อหาสาระสำหรับมือใหม่ที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการลงทุน หรือการเปิดบัญชีพอร์ตการลงทุน ก็ล้วนมีเนื้อหาที่อธิบายเอาไว้อย่างละเอียด แถมยังมีการถ่ายทอดในรูปแบบของการ์ตูน ช่วยให้อ่านเข้าใจได้ง่าย มีการสอดแทรกมุกตลกช่วยให้อ่านได้โดยไม่น่าเบื่อ ซึ่งนอกจากความสนุกสนานดังกล่าวแล้ว หนังสือเล่มนี้ยังสามารถไปประยุกต์ในการลงทุนจริงได้ดีอีกด้วย

สำหรับคนที่เล่นหุ้นคงไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอนสำหรับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าระดับประเทศ ซึ่งในหนังสือเล่มนี้เขาจะมาช่วยชี้ถึงกลยุทธ์การสร้างพอร์ตให้เติบโตในระยะยาวในแบบของตนเอง ทั้งเรื่องของความเข้าใจในธุรกิจ, การดูว่าหุ้นนั้นมีราคาที่เหมาะสมหรือไม่อย่างไร, วิธีการค้นหาหุ้นในแบบ VI, รวมไปถึงสิ่งที่ต้องระมัดระวังในการลงทุน โดยเนื้อหาทั้งหมดจะถูกถ่ายทอดด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย มีตัวอย่างที่ชัดเจนให้เปรียบเทียบเพื่อที่จะนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในสไตล์การลงทุนแบบที่เป็นตัวคุณเองครับ

หนังสือเล่มนี้จะสะท้อนถึงกลยุทธ์และความฉลาดในการลงทุนของบัฟเฟตต์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในเรื่องของการมองหาธุรกิจชั้นนำต่าง ๆ ในตอนที่ราคายังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งจากอดีตถึงปัจจุบัน หุ้นแทบทุกตัวของบัฟเฟตต์ล้วนสร้างผลตอบแทนมหาศาลให้แก่เขาเสมอ นอกจากนี้ หนังสือเล่มนี้ยังมีการแฝงแง่คิดที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคการจัดการความคิดความรู้สึกต่าง ๆ ในการลงทุน รวมถึงจุดยืนของบัฟเฟตต์ที่ทำให้ได้รับการยกย่อง ใครอยากเปิดโลกการลงทุนให้กว้างขึ้น ขอแนะนำเลยครับ

หุ้น 10 เด้ง ถือเป็นความฝันที่เกิดขึ้นได้ยากของนักลงทุนทุกคนก็ว่าได้ แต่หนังสือเล่มนี้อาจมีตัวช่วยครับ เพราะถูกเขียนโดยอัจฉริยะที่บริหารกองทุนจาก 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็น 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐมาแล้ว โดยในหนังสือเล่มนี้จะบอกถึงประวัติในการลงทุนของปีเตอร์ ลินช์ไว้อย่างละเอียด แฝงไปด้วยกลยุทธ์และประสบการณ์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกหุ้นเพื่อลงทุนให้ได้ 10 เด้ง การลงทุนในสินค้ารูปแบบต่าง ๆ และการจัดการพอร์ตลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีข้อเตือนใจนักลงทุนที่คุณต้องรู้อีกด้วย

เห็นหรือไม่ครับว่า หนังสือเล่นหุ้นไม่ใช่ทุกเล่มที่จะอ่านได้เข้าใจง่าย และไม่ใช่ทุกเล่มที่จะเหมาะกับรูปแบบการลงทุนที่คุณถนัด เพราะว่าหนังสือเล่นหุ้นนั้นมีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายเนื้อหา แถมบางเล่มก็อาจเหมาะกับผู้เริ่มต้น ในขณะที่บางเล่มนั้นเหมาะกับคนที่มีความรู้พื้นฐานหรือเป็นระดับโปรอยู่แล้ว ซึ่งหากคุณซื้อหนังสือมาผิดรูปแบบก็อาจจะทำให้ไม่เข้าใจในเนื้อหาที่หนังสือต้องการสื่อได้ดีพอ


แต่หากคุณได้อ่านบทความนี้แล้ว ด้วยวิธีการเลือกหนังสือเล่นหุ้นที่เราได้กล่าวไปข้างต้น เราเชื่อว่าจะสามารถช่วยให้คุณเลือกซื้อหนังสือเล่นหุ้นที่ตรงกับความต้องการของคุณได้ไม่มากก็น้อยครับ และหากคุณยังไม่มีตัวเลือกหนังสือเล่นหุ้นในใจล่ะก็ สามารถย้อนไปดู 10 อันดับ หนังสือเล่นหุ้น ที่เราได้คัดสรรมาแนะนำได้นะครับ บอกเลยว่า อ่านได้ดีมีสาระ แถมยังประยุกต์ใช้ได้ง่ายแน่นอนครับ