สุดยอด 7 บลัชออนเนื้อแป้ง น่าใช้ เหมาะกับยุคไฮเทค อัพเดทล่าสุดปี 2567

คูปอง ส่วนลด ในร้านค้าออนไลน์แนะนำของเรา จัดเต็ม โปรลดเยอะ สำหรับ Flash Sale สามารถใช้งานได้ รับข้อเสนอมากมาย กับดีลเด็ดประจำวัน คูปอง ส่วนลด จัดเต็ม สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และไว้ใจได้กับโมบาย แอปพลิเคชั่น
คุณภาพเจ๋ง ราคาที่ไม่แพง เราขอแนะนำ บลัชออนเนื้อแป้ง  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  จากร้านค้า Online ที่ถู๊กถูกและเยี่ยมที่สุดในไทย สั่ง บลัชออนเนื้อแป้ง  ไป ราคาถูกกว่าซื้อห้าง สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ ส่งไว ของพรีเมี่ยม ได้ลองแล้วนับว่าดีเลยทีเดียว ไม่พบปัยหาเลยกับทางร้านค้า

     
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อบลัชออนเนื้อแป้งแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง บลัชออนเนื้อแป้ง นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในบลัชออนเนื้อแป้งอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ บลัชออนเนื้อแป้งแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้

บลัชออนเนื้อแป้ง เป็นเมคอัพไอเทมชิ้นสำคัญที่สาว ๆ หลายคนจะต้องมีติดไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งหรือพกติดตัวเอาไว้ในกระเป๋าเครื่องสำอาง เพราะการปัดแป้งบลัชออนจะช่วยทำให้พวงแก้มของเราดูมีสีสันและมีเลือดฝาดอย่างคนมีสุขภาพผิวดี เพิ่มมิติให้กับโครงหน้าและทำให้ใบหน้าของเรานั้นดูเด็กลงได้อีกด้วย บลัชออนเนื้อแป้งได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะใช้งานง่าย สามารถเติมลงบนแก้มเมื่อไหร่ก็ได้ และสีที่ออกมาก็ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย


แต่บลัชออนเนื้อแป้งที่วางจำหน่ายทั่วไปนั้น มีมากมายหลายยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็น Nars, Maybelline New York, 4U2, Canmake เป็นต้น แถมยังมีมากมายหลายเฉดสี ไม่ว่าจะเป็นสีชมพู สีพีช, สีส้ม, สีส้มอิฐ และสีแดง จึงทำให้หลายคนสับสนไม่รู้ว่าจะเลือกยี่ห้อไหน หรือควรใช้บลัชออนแบบไหนดี วันนี้ทางทีมงานจึงนำทั้งวิธีการเลือกบลัชออนเนื้อแป้งและเคล็ดลับวิธีใช้บลัชออนมาฝากกัน และใครที่ไม่รู้ว่าจะซื้อบลัชออนเนื้อแป้งยี่ห้อไหนดีก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราได้รวบรวม 10 อันดับ ยี่ห้อ บลัชออนเนื้อแป้ง ที่ขายดีและได้รับความนิยมจากสาว ๆ จากเว็บรีวิวต่าง ๆ มาให้เป็นไอเดียในการเลือกซื้ออีกด้วยค่ะ

อย่างแรกเลย เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า สิ่งสำคัญ 3 สิ่งที่จะทำให้คุณสามารถเลือกบลัชออนเนื้อแป้งได้อย่างเหมาะสมที่สุดนั้นมีอะไรบ้าง

บลัชออนเนื้อแป้งที่ดีและเหมาะกับคุณนั้น จะต้องให้ฟินิชลุคที่เป็นธรรมชาติ เพราะเมื่อคุณอยากจะเน้นสีที่เด่นชัดบนแก้ม แต่บลัชออนที่คุณใช้ไม่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองแล้วล่ะก็ อาจทำให้การเมคอัพทั้งหมดของคุณออกมาดูไม่ดีตามที่ต้องการได้ค่ะ

เราแนะนำให้คุณเลือกบลัชออนเนื้อแป้งที่มีเนื้อสัมผัสเนียน สามารถเกลี่ยบนผิวหน้าได้ง่าย โดยสีของบลัชออนควรจะกระจายบนผิวแก้มอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมชาติค่ะ


หากคุณเลือกบลัชออนที่มีคุณภาพไม่ดี สีของบลัชออนก็จะกระจุกตัวกันเป็นก้อน จนทำให้สีนั้นเข้มเกินกว่าที่จะดูกลมกลืนไปกับผิวธรรมชาติของเรา หรือบางครั้งอาจทำให้เนื้อแป้งของบลัชออนไม่เกาะติดกับผิว จนทำให้เมคอัพของเรานั้นหลุดจางลงไปในระหว่างวันได้ค่ะ

โทนสีผิวตามธรรมชาติของคุณก็เป็นสิ่งที่คุณควรคำนึงถึงเวลาที่จะเลือกเฉดสีของบลัชออน คนที่มีสกินโทนอุ่น หรือ Warm Undertones นั้น ควรจะเลือกบลัชออนเนื้อแป้งที่มีเฉดสีไปทางโทนเหลืองส้ม เช่น สี Coral, สีส้ม หรือสีพีช ส่วนคนที่มีสกินโทนเย็น หรือ Cool Undertones ควรจะเลือกบลัชออนเฉดสีโทนเย็นหรือ Bluish เช่น สีม่วงหรือสีบานเย็นค่ะ


นอกจากนี้ เฉดสีของบลัชออนที่ต่างกันก็เหมาะกับ Makeup Look ที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

บลัชออนสีแดง : ให้เมคอัพลุคแบบเซ็กซี่ เหมาะสำหรับแต่งหน้าไปเดท หรือแต่งหน้าไปงานเลี้ยงที่ต้องจัดเต็ม

บลัชออนสีชมพู : ให้เมคอัพลุคแบบหวานและน่ารัก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนลุคให้ดูอ่อนเยาว์

บลัชออนสีส้ม : ให้เมคอัพลุคแบบสาวสดใสมีสุขภาพดี เหมาะกับการแต่งหน้าในวันสบาย ๆ

บลัชออนสีม่วง : เหมาะสำหรับคนที่อยากเพิ่มสีสันให้ผิวที่ซีดดูมีชีวิตชีวา


บลัชออนเนื้อแป้งนั้น ถ้าแบ่งตามการใช้งานจะมีอยู่ 2 แบบ แบบที่ 1 คือ Single Color ที่มีเพียงแค่สีเดียวใน 1 ตลับ จึงใช้งานง่ายเหมาะกับมือใหม่หัดแต่งหน้า และคนที่ต้องการแต่งหน้าลุคง่าย ๆ ไม่ต้องใช้เวลามาก แบบที่ 2 Multi-Colored เป็นบลัชออนที่มีหลายสีใน 1 ตลับ เวลาใช้งานจะต้องใช้แปรงปาดวนทุกเฉดสีในตลับ ซึ่งบลัชออนแบบนี้จะสามารถช่วยสร้างมิติให้กับใบหน้าได้ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับมือโปรหรือคนที่แต่งหน้าจนชำนาญแล้วค่ะ

จะเห็นได้ว่าบลัชออนเนื้อแป้งทั้ง 2 แบบนั้นมีข้อดีที่ต่างกันออกไป ดังนั้น คุณจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับสไตล์การใช้งานนะคะ

หากคุณเลือกบลัชออนเนื้อแป้งที่มีคุณภาพไม่ดี เนื้อแป้งก็จะไม่สามารถเกาะติดบนผิวและหลุดลอกออกได้ง่าย คุณจึงควรเลือกบลัชออนที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นสูง เพื่อที่เนื้อแป้งจะได้ติดบนผิวหน้าของคุณได้นานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บลัชออนเนื้อแป้งที่เกาะติดบนแก้มได้นานส่วนใหญ่ มักจะกันเหงื่อและกันน้ำได้ดีอีกด้วย เพื่อให้คุณสามารถเลือกบลัชออนเนื้อแป้งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เราขอแนะนำให้คุณอ่านรีวิวของผู้ที่ใช้ประกอบควบคู่กันไปด้วยก่อนตัดสินใจเลือกซื้อค่ะ

ต่อให้บลัชออนเนื้อแป้งจะมีคุณภาพดีแค่ไหน แต่ถ้าบรรจุในแพ็กเกจที่ไม่มีคุณภาพแล้วล่ะก็ อาจทำให้มีอายุการใช้งานสั้นลงกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น คุณจึงควรตรวจสอบให้ดีว่า พาเลตต์ที่ใส่บลัชออนนั้นมีความแข็งแรงทนทาน และตัวตลับบลัชออนมีฝาปิดมิดชิดด้วยหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เวลาตกแล้วบลัชออนแตกกระจาย นอกจากนี้ คุณไม่ควรเลือกใช้บลัชออนที่เนื้อแป้งร่วงกระจายเป็นผงได้ง่าย เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการหกเลอะเทอะค่ะ


ส่วนแพ็กเกจของบลัชออนเองก็ควรที่จะใช้งานง่าย ฝาปิดตลับต้องไม่เปิด-ปิดลำบากจนเกินไป ใช้งานได้ทันใจเวลาที่เร่งรีบ รวมทั้งควรมีขนาดที่เหมาะสม สามารถพกติดตัวไปไหนมาไหนได้ตลอดเวลา


สุดท้าย นอกจากความทนทานแล้ว แพ็กเกจบลัชออนควรมีอุปกรณ์ครบถ้วนด้วย ไม่ว่าจะเป็นแปรงและกระจกที่ควรจะมาคู่กันเพื่อทำให้คุณสามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น และอย่าลืมตรวจสอบคุณภาพของแปรง หรือกระจกด้วยนะคะว่ามีคุณภาพเหมาะสมกับราคาหรือไม่ จะได้ใช้งานไปนาน ๆ ไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ให้เสียเงินค่ะ

หลังจากที่เราได้นำเสนอเรื่องวิธีการเลือกบลัชออนเนื้อแป้งให้เหมาะสมกับสภาพผิวและเมคอัพลุคของคุณไปแล้ว มาดูกันดีกว่าว่า 10 อันดับ บลัชออนเนื้อแป้ง ที่ได้รับความนิยมและมียอดขายมากมายมาการันตี จะมียี่ห้อไหนกันบ้าง

บลัชออนเนื้อแป้งฝุ่นตัวนี้ เป็นรุ่นที่ขายดีมายาวนานของแบรนด์ จุดเด่นที่ทำให้ผู้ใช้ชื่นชอบ คือ แพ็กเกจจิ้งที่มีหัวแปรงมาพร้อมกับตัวบลัชออน ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายพกพาไปไหนได้อย่างสะดวก สีของบลัชออนจะมีประกาย Shimmer แฝงมาด้วยเพื่อทำให้พวงแก้มดูสวยสว่างขึ้น นอกจากนี้ ยังมีความติดทนในระดับปานกลาง แต่อาจจะมีบางคนที่ไม่ประทับใจในขนของแปรงที่มากับบลัชออนสักเท่าไหร่ เพราะรู้สึกถึงความแข็งกระด้าง ใช้แล้วอาจจะทำให้รู้สึกบาดผิวค่ะ

การแต่งหน้าแบบ Ombre หรือการไล่ระดับเฉดสีกำลังมาแรง ทางแบรนด์ Cute Press จึงได้ผลิตบลัชออนรุ่นนี้มาตอบโจทย์คนที่ต้องการแต่งหน้าลุคที่ดูโกลว์เป็นธรรมชาติ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างมาก เพราะ 2 เฉดสีที่มาใน 1 ตลับของบลัชออนรุ่นนี้สามารถสร้างมิติให้กับใบหน้าได้เป็นอย่างดี ช่วยให้แก้มดูมีสีสันระเรื่อแบบคนมีสุขภาพดี แต่บลัชออนตัวนี้มีโทนสีที่ค่อนข้างเข้มจึงต้องเบามือเวลาปัดแก้ม

บลัชออนเนื้อแป้งตัวนี้มีจุดเด่นที่ทำให้สาว ๆ หลายคนตัดสินใจซื้อคือ เนื้อแป้งที่เนียนละเอียด สามารถปัดติดสีบนใบหน้าและเกลี่ยทั่วบริเวณแก้มได้อย่างง่ายดาย สีของบลัชออนนั้นมีความเด่นชัด มีประกาย Shimmer เพียงเล็กน้อยที่ช่วยเพิ่มความฉ่ำให้กับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังเป็นบลัชออนที่มีเฉดสีที่สามารถใช้ได้ในทุกโทนสีผิวและทุกเมคอัพลุค แต่เนื้อบลัชออนอาจจะไม่สามารถติดทนได้นาน ทำให้ต้องเติมระหว่างวันค่ะ

บลัชออนเนื้อแป้งตัวนี้ เหมาะสำหรับคนที่มองหาบลัชออนที่ให้ Finish Look แบบ Matte เพราะรุ่นนี้มี 2 เฉดสี ที่มีเนื้อเนียนละเอียดไม่มีประกาย มีคุณสมบัติในการกันเหงื่อและควบคุมความมัน จุดเด่นที่ทำให้หลายคนประทับใจ คือ ความเด่นชัดของสีบลัชออนที่ไม่ต้องปัดซ้ำไปมาหลายครั้ง และความคุ้มค่าใน 1 ตลับที่คุณสามารถใช้บลัชออนแยกเป็น 2 สี หรือจะเบลนด์ทั้ง 2 สีผสมกันเพื่อสร้างมิติและเพิ่มความโดดเด่นให้กับแก้มด้วยก็ได้

โดดเด่นกว่าใครด้วยบลัชออน 5 เฉดสีในตลับเดียว ! จะใช้แยกแต่ละสี หรือใช้รวมกันเพื่อช่วยสร้างมิติให้กับใบหน้าก็ได้ ทำให้เป็นที่ถูกใจของสาว ๆ ที่อยากจะเพิ่มลูกเล่นให้กับแก้มสุด ๆไปเลยค่ะ โทนสีของบลัชออนก็เน้นเมคอัพลุคแบบสาวหวาน มีประกาย Shimmer ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ แถมหลายคนยังชอบที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นจึงติดทนบนผิวได้นาน ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม คนผิวบอบบางจึงสามารถใช้ได้อีกด้วย

แบรนด์ NYX เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของเมคอัพอยู่แล้ว ซึ่งบลัชออนตัวนี้ก็ได้รับความนิยมล้นหลาม เพราะแป้งบลัชออนมีความนุ่มเนียนละเอียดแบบครีม ที่มีความชุ่มชื้นอย่างพอเหมาะ จึงสามารถเกาะติดบนผิวให้สีที่เด่นชัดกับแก้มและมีความติดทนยาวนาน แถมสาว ๆ หลายคนยังติดใจที่บลัชออนนั้นเกลี่ยง่าย กระจายเม็ดสีได้อย่างดี นอกจากนี้ บลัชออนรุ่นนี้ยังมีหลายเฉดสีให้เลือกตามโทนสีผิวและตามเมคอัพลุคที่คุณชื่นชอบได้อีกด้วยค่ะ

กำลังเป็นที่ฮอตฮิตกันมากทั่วโลกเลยค่ะสำหรับบลัชออนตัวนี้ ข้อดีที่ทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อบลัชออนตัวนี้ คือ เรื่องของเนื้อแป้งบลัชออนที่มีความนุ่มและเนียนละเอียด จึงสามารถปัดติดสีบนผิวหน้าได้เป็นอย่างดีและเกลี่ยได้ง่าย จึงทำให้สีของบลัชออนนั้นกระจายตัวทั่วถึงและเด่นชัด อีกทั้งยังมีเนื้อที่บางเบาจึงทำให้ Finish Look ที่ได้ออกมานั้นมีความเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับมีเฉดสีให้เลือกหลายเฉดสี แต่ส่วนใหญ่จะเหมาะกับคนที่อยากได้เมคอัพลุคแบบธรรมชาติสำหรับโอกาสทั่วไป

หากพูดถึงบลัชออนแล้วไม่มียี่ห้อ Nars ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะบลัชออนตัวนี้ได้รับความนิยมมายาวนาน ไฮไลท์สำคัญที่ทำให้บลัชออนตัวนี้ได้รับความนิยม คือ ความแน่นของเม็ดสีที่สามารถติดสีบนผิวได้อย่างเด่นชัด เพียงปัดไปแค่นิดเดียว เนื้อแป้งบลัชออนยังมีความโปร่งใส และเนียนละเอียดทำให้เกลี่ยกระจายเม็ดสีได้ทั่วบริเวณแก้ม สีของบลัชออนที่ออกมาจึงมีความเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ หลายคนยังชื่นชอบที่บลัชออนมีสีและเนื้อสัมผัสให้เลือกหลากหลายตาม Finish Look ที่ต้องการได้ด้วยค่ะ

บลัชออนตัวนี้ ได้รับการยอมรับทั้งในประเทศและนอกประเทศ โดยจุดเด่นที่สร้างความนิยมเป็นอย่างมาก คือ เรื่องของเฉดสีที่มีให้เลือกถึง 20 เฉดสี รวมทั้งมี Finish Look ให้เลือกกันทั้งแบบ Matte และ แบบ Shimmer ที่สำคัญ คือ มีราคาไม่แพง ซึ่งความเห็นของผู้ใช้นั้นติดใจในเรื่องของเม็ดสีบลัชออนที่มีความแน่นและเด่นชัดเมื่อปัดลงบนแก้ม และหลายคนยังรักที่บลัชออนตัวนี้มีสารกันแดดมาให้อีกด้วย จึงทำให้บลัชออนตัวนี้มีได้รับความนิยมสุด ๆ เลยค่ะ

สิ่งที่ทำให้ทุกคนรักในบลัชออนรุ่นนี้ คือ เม็ดสี (Pigment) ที่เด่นชัด สามารถปัดติดสีบนแก้มได้ง่าย และยังมีถึง 3 เฉดสีในตลับเดียว ช่วยให้คุณสามารถแต่งเติมสีสันบนแก้มได้ออกมาดูมีมิติ และไล่ระดับสีอย่างระเรื่อและเป็นธรรมชาติ จุดเด่นอีกเรื่องของบลัชออนตัวนี้ คือ เรื่องของแพ็กเกจจิ้งที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานครบ ไม่ว่าจะเป็นกระจกและแปรง ทั้งหมดถูกบรรจุในตลับที่มีความทนทานและขนาดกะทัดรัดพกพาได้สะดวกค่ะ

หลังจากที่เราได้รู้ถึงวิธีการเลือกบลัชออนเนื้อแป้งและ 10 อันดับ บลัชออนเนื้อแป้ง ที่ได้รับความนิยมไปแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่า วิธีการทำให้เมคอัพของคุณดูดียิ่งขึ้นด้วยบลัชออนเนื้อแป้งนั้นมีอะไรบ้าง

การปัดบลัชออนเนื้อแป้งที่ถูกต้อง ควรจะทำหลังจากที่ลงรองพื้นบนใบหน้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่ารองพื้นที่คุณใช้จะเป็นแบบเนื้อแป้ง, Liquid หรือครีมก็ตาม เพราะบลัชออนเนื้อแป้งจะมีลักษณะเป็นแป้งฝุ่น ดังนั้น จึงต้องอาศัยรองพื้นเพื่อช่วยให้เนื้อแป้งเกาะติดบนผิวหน้าได้ดียิ่งขึ้น ทำให้คุณสามารถปัดสีของบลัชออนได้แน่นและเห็นชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย


หลาย ๆ คนอาจเคยประสบปัญหาเกลี่ยสีบลัชออนได้ไม่สม่ำเสมอทั่วแก้ม ซึ่งเคล็ดลับในการแก้ปัญหาดังกล่าวก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่หลังจากที่คุณแตะแปรงปัดแก้มลงไปบนบลัชออนแล้วอย่าเพิ่งปัดลงบนแก้มโดยตรง ให้เกลี่ยสีให้ทั่วแปรงบนหลังมือของคุณหรือบนทิชชู่ก่อน แล้วค่อยนำแปรงดังกล่าวปัดลงไปบนแก้ม เพียงเท่านี้ คุณก็จะสามารถเกลี่ยสีของบลัชออนเนื้อแป้งบนแก้มของคุณได้อย่างสม่ำเสมอแล้วค่ะ

สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความติดทนของบลัชออนเนื้อแป้ง เราแนะนำให้คุณลองใช้ควบคู่ไปกับบลัชออนเนื้อครีม โดยคุณสามารถลงบลัชออนเนื้อครีมบนแก้มก่อน แล้วค่อยปัดบลัชออนเนื้อแป้งทับลงไปค่ะ


ลำดับขั้นตอนในการแต่งหน้านั้นจะแตกต่างกันไปตามลักษณะของรองพื้นที่คุณใช้ ดังนี้

ถ้าคุณใช้รองพื้นแบบแป้ง : เมคอัพเบส > บลัชออนเนื้อครีม > รองพื้นแบบแป้ง > บลัชออนเนื้อแป้ง
ถ้าคุณใช้รองพื้นแบบครีมหรือ Liquid : เมคอัพเบส > รองพื้นแบบครีมหรือ Liquid > บลัชออนเนื้อครีม > บลัชออนเนื้อแป้ง


เพราะบลัชออนเนื้อครีมจะมีความเหนียวจากเนื้อสัมผัส จึงทำให้แป้งของบลัชออนเกาะติดบนผิวแก้มได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น หากวันไหนที่คุณต้องการให้เมคอัพติดทนอยู่บนใบหน้า ก็ขอให้ลองใช้วิธีตามเคล็ดลับนี้ดูนะคะ รับรองได้เลยว่า สีแก้มของคุณจะไม่ซีดลงในระหว่างวันแน่นอน


หากใครอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับ บลัชออนเนื้อครีม เพิ่มเติม ทางทีมงานมายเบสท์ก็มีบทความที่รวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาให้คุณแล้วค่ะ

หลังจากอ่านบทความนี้ คุณผู้อ่านหลายคนก็คงจะได้รู้จักบลัชออนเนื้อแป้งกันมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ ? เราหวังว่าความรู้เกี่ยวกับวิธีการเลือกบลัชออนเนื้อแป้ง และเคล็ดลับในการใช้บลัชออนเนื้อแป้งอย่างเหมาะสม จะช่วยให้คุณเห็นถึงข้อดีของการใช้บลัชออนชนิดนี้นะคะ และหากคุณจะลองตัดสินใจเลือกซื้อบลัชออนเนื้อแป้งมาใช้ดูสักตลับเราก็แนะนำให้คุณลองใช้ 10 อันดับ บลัชออนเนื้อแป้ง ที่เราได้รวบรวมมาเป็นไอเดียในการช่วยตัดสินใจได้เลย


การจะปัดแก้มออกมาให้ดูดี นอกจากจะเลือกจากบลัชออนแล้ว ยังต้องเลือกจากเมคอัพไอเทมและอุปกรณ์ในการแต่งหน้าชนิดอื่นมาช่วยเสริมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเมคอัพเบสที่จะช่วยให้บลัชออนของคุณเกาะตัวบนผิวหน้าได้ยาวนาน หรือการเลือกแปรงปัดแก้มที่จะช่วยให้การเกลี่ยสีบนผิวเป็นไปอย่างเรียบเนียนและเป็นธรรมชาติ เราจึงอยากให้คุณได้ลองศึกษาเพิ่มเติมในส่วนนี้ดูนะคะ