รีวิว 6 อันดับ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 ที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุด คลิกเลย!! อัพเดทล่าสุดปี 2567

เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่อยากซื้อออนไลน์แต่ไม่อยากไปซื้อเองที่ห้าง และที่สำคัญสินค้าบางแบรนด์ที่ขาย ราคาถูกกว่าเมื่อสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ สุดคุ้ม ดีลที่ดีที่สุดมาแล้ว ช้อปเพลินๆ สินค้าลดราคา สูงสุดและคูปองลดมากมาย ดีลสุดพิเศษ
ราคาเด็ดถุกใจลุกค้าแน่นอน ราคาถูกมาก เราขอแนะนำ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  จากร้านค้า Online ที่ถู๊กถูกและเยี่ยมที่สุดในไทย สั่ง น้ำหอมสำหรับสาววัย 30  ไป ราคาถุกกว่าร้านอื่นๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง เลยจัดไป ได้รับสินค้าเรียบร้อย ส่งทางไปรษณีย์หรือไม่ก็ทางหน่วยจัดส่ง ของพรีเมี่ยม ได้ลองแล้วนับว่าดีเลยทีเดียว ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง

     
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากน้ำหอมสำหรับสาววัย 30 มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ น้ำหอมสำหรับสาววัย 30ยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!

น้ำหอมไม่เพียงแต่เป็นเครื่องประทินกลิ่นกายให้หอมหวาน น่าหลงใหลและเสริมเสน่ห์สำหรับผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกความเป็นตัวตนและสะท้อนรสนิยมของผู้ใช้ได้ด้วย ซึ่งช่วงวัยที่แตกต่างกันนั้นก็มีผลต่อการเลือกกลิ่นน้ำหอมให้เหมาะสม ก็เหมือนการสวมใส่เสื้อผ้าของสาว ๆ วัย 30 ที่ในบางวาระโอกาสโดยเฉพาะในพิธีการนั้นจะสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูเด็กมาเกินไปก็อาจจะไม่เหมาะสม น้ำหอมก็เช่นกัน ถ้ากลิ่นหวานเลี่ยนจนเกินไป อาจเป็นการรบกวนคนรอบข้างได้

ครั้งนี้ ทีมงานจึงมีเรื่องราวเกี่ยวกับการเลือกซื้อน้ำหอมสำหรับสาววัย 30 มาฝากกันค่ะ หลายคนอาจเคยได้ยินเพื่อนสาวคนสนิทบอกต่อกันมาว่าน้ำหอมรุ่นนั้น/รุ่นนี้ดี แต่เคยรู้กันไหมคะว่า การเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับวัย 30 ที่แท้จริงนั้นมีวิธีการอย่างไร? สิ่งใดบ้างที่ต้องคำนึงถึงก่อนตัดสินใจซื้อ? แล้วในตอนท้ายของบทความเรายังได้รวบรวมน้ำหอมยอดฮิตขายดีหลากหลายยี่ห้อมาเป็นตัวเลือกให้สาว ๆ วัย 30 อีกด้วย มาติดตามไปพร้อมกันเลยค่ะว่า น้ำหอมที่เหมาะกับคุณนั้นจะมีรุ่นใด กลิ่นใดบ้าง

สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ต้องคำนึงเวลาเลือกซื้อน้ำหอม คือ เรื่องของกลิ่นที่ต้องสอดคล้องกับหลาย ๆ ปัจจัย ทั้งยังต้องเป็นกลิ่นที่เจ้าตัวชื่นชอบและต้องคำนึงถึงคนรอบข้างที่อาจได้กลิ่นด้วย

น้ำหอมที่เราใช้ฉีดพรมร่างกายนั้นมีอยู่หลายกลิ่นที่ให้ความหอม ซึ่งสิ่งสำคัญอันดับแรกของการเลือกซื้อน้ำหอม คือ ต้องเป็นกลิ่นที่โดนใจผู้ใช้ สาว ๆ ต้องถามตัวเองก่อนว่ากลิ่นหอมแบบไหนที่เราชื่นชอบ คงจะไม่รื่นรมย์นักหากคุณต้องมาดมกลิ่นที่ไม่โปรดปรานติดตัวเราอยู่ตลอดเวลา แม้จะไม่ได้เหม็นแต่ก็อาจทำให้อารมณ์ความรู้สึกของคุณห่อเหี่ยวลงได้เลยทีเดียวค่ะ

สำหรับการเลือกซื้อกลิ่นน้ำหอมอย่างไรให้โดนใจนั้น ควรทดลองกลิ่นอย่างหลากหลายแล้วตัดสินใจเลือกรุ่นที่ตัวเองประทับใจที่สุด ที่คิดว่านี่แหละ คือ สิ่งที่ใช่สำหรับคุณแน่แล้ว! ซึ่งความชอบของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป บ้างชอบแนวเซ็กซี่, บ้างชอบแนวกลิ่นแบบสดชื่น แต่สำหรับสาววัย 30 นั้น เราขอแนะนำว่าควรเลือกซื้อน้ำหอมที่ให้อารมณ์ความรู้สึกสง่างามและเซ็กซี่จะเหมาะกว่าแนวน่ารักสดใสย้อนวัยค่ะ

เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 30 ปีที่เริ่มมีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น สาว ๆ ควรให้ความสำคัญในการเลือกกลิ่นน้ำหอมให้เหมาะสมกับ TPO (Time, Place, Occasion) หรือแปลเป็นไทยได้ว่า เวลา, สถานที่และโอกาส รวมถึงสไตล์การแต่งตัวและการแต่งหน้าทำผมในแต่ละลุคด้วย ถ้าหากในบางโอกาสที่คุณแต่งตัวเซ็กซี่ก็ควรเลือกใช้น้ำหอมที่ให้อารมณ์แบบเซ็กซี่, เย้ายวน, น่าค้นหา อย่างเช่น กลิ่นมัสค์ (Musk) แต่หากวันไหนแต่งตัวในลุคแบบหรูหรา สง่างามก็อาจเลือกใช้น้ำหอมกลิ่นสไตล์ Floral และกลิ่นหอมสดชื่นแทนค่ะ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งเหล่านี้มีความเกี่ยวเนื่องกันอยู่ไม่มากก็น้อย ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับการเลือกใช้น้ำหอมให้เหมาะกับสไตล์การแต่งตัวและโอกาสในทุกครั้ง เพราะเมื่อ Mood & Tone ไม่เป็นไปในทางเดียวกันจะทำให้คุณขาดความมั่นใจ รวมถึงอารมณ์ของตัวคุณเองก็จะไม่รื่นรมย์เท่าที่ควร

เคยรู้หรือไม่? น้ำหอมมีการแบ่งระดับตามความเข้มข้นออกเป็นหลายชนิดด้วยกัน มาทำความรู้จักและเลือกใช้ชนิดน้ำหอมที่คุณชื่นชอบไปพร้อมกันเลยค่ะ

น้ำหอม สามารถแบ่งได้อย่างคร่าว ๆ ออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่ “Perfume”, “Eau de Perfume”, “Eau de Toilette” และ “Eau de Cologne” ซึ่งสาว ๆ ควรเลือกให้เหมาะสมกับความชอบและความต้องการ เพราะแต่ละชนิดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและให้อรรถรสทางกลิ่นแตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้


  1. “Perfume” มีความสตรองสูงสุดในแง่ของความเข้มข้น โดยมีหัวน้ำหอมผสมอยู่ 20 – 40% มีผลทำให้กลิ่นหอมนั้นติดทนยาวนานกว่า 8 – 10 ชั่วโมง

  2. “Eau de Perfume หรือ Eau de Parfum (EDP)” มีความเข้มข้นน้อยกว่าชนิดแรก แต่ให้กลิ่นที่ติดทนไม่ต่างกันมากนัก อยู่ที่ประมาณ 7 – 8 ชั่วโมง

  3. “Eau de Toilette (EDT)” มีความเข้มข้นน้อยกว่าแบบ Eau de Perfume ระยะเวลาให้กลิ่นหอมอยู่ที่ 4 – 6 ชั่วโมง

  4. “Eau de Cologne (EDC) หรือ Cologne” มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นกลิ่นหอมที่บางเบา พรมตัวแล้วได้รับสัมผัสแบบอโรมา กลิ่นหอมกำลังดี ไม่ฉุนแรงจนแสบจมูก ติดทนอยู่ได้เพียงแค่ 2 – 3 ชั่วโมงเท่านั้น

น้ำหอมยังถูกจำแนกแยกประเภทตามที่มาของกลิ่น เป็นต้นว่า กลิ่นแบบ Floral ที่ได้รับความนิยมและมักใช้งานกันอย่างแพร่หลายที่สุดมีกลิ่นเบสมาจากดอกไม้นานาชนิด ส่งกลิ่นหอมหวาน ให้ความรู้สึกสดใสร่าเริง หรือกลิ่นแบบ Citrus (ซิตรัส) ที่เป็นกลิ่นดอกไม้มาผสมผสานเข้ากับกลิ่นของผลไม้ต่าง ๆ ซึ่งลดความหอมหวานลงไปแต่สอดแทรกด้วยความเปรี้ยวและความสดชื่น
ยังไม่หมดเท่านั้น การพัฒนาคิดค้นน้ำหอมยังคงมีการผสมผสานกลิ่นหอมจากธรรมชาติเข้าด้วยกันอีกอย่างหลากหลาย เช่น กลิ่น Oriental และ Amber ที่รวมเอาเครื่องเทศและสมุนไพรมาสกัด มอบกลิ่นที่ให้ความรู้สึกเย้ายวน น่าค้นหา กลิ่นแนว Freesia ให้กลิ่นหอมแบบไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป เพราะมีกลิ่นเบสสไตล์ห้าว ๆ แมน ๆ แบบผู้ชายผสม และกลิ่น Chypre ที่เป็นการผสมผสานของกลิ่นไม้และดอกไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่น

อย่างไรก็ตาม น้ำหอมสำหรับสาววัย 30 ปีที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง คือ กลิ่นแบบ Floral ซึ่งใช้งานได้หลากหลายโอกาสไม่ว่าจะเป็นปาร์ตี้สนุกสนานหรือในวันสบาย ๆ, มีงานอีเว้นท์สำคัญ เป็นต้น

หลายคนอาจเคยประสบปัญหาว่า ในตอนแรกที่ดมน้ำหอมกลิ่นหนึ่งก็ว่าดีอยู่แล้ว แต่พอเวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง กลับพบว่ากลิ่นที่ได้นั้นเริ่มไม่ใช่แนว นั่นเป็นเพราะน้ำหอมมีการเปลี่ยนแปลงสภาพและกลิ่นตามเวลา ซึ่งแบ่งออกเป็นขั้นต่าง ๆ เรียกศัพท์เฉพาะว่า โน้ต (Note) นั่นเองค่ะ

กลิ่นหอมแรกที่คนเราจะสัมผัสได้เมื่อฉีดพรมน้ำหอมเรียกว่า “Top Note” เป็นกลิ่นที่ระเหยออกมาในช่วง 5 – 10 นาทีแรกเมื่อเริ่มใช้งาน ต่อมาจะเป็นกลิ่น “Middle Note” จะยังคงติดผิวได้นาน 2 – 4 ชั่วโมงและในช่วง 4 – 6 ชั่วโมงต่อมาก่อนกลิ่นหอมจะจางหายไปเราเรียกมันว่า “Base Note” ค่ะ

ช่วงเวลาที่น้ำหอมเปลี่ยนกลิ่นแต่ละ Note นั้นมีผลต่อรสสัมผัสที่คุณจะได้รับ บางคนอาจไม่ชอบ Top Note แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนได้กลิ่น MMiddle Note กับ Base Note กลับเปลี่ยนใจมาชอบจนถอนตัวไม่ขึ้น ในทางตรงกันข้าม เมื่อได้กลิ่น Top Note รู้สึกว่านี่คือใช่เลย! แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับมีกลิ่นเพี้ยนไปจากความชอบของเราก็มี ดังนั้น สาว ๆ ควรพิจารณาเลือกซ์้อน้ำหอมอย่างพิถีพิถัน ตรวจสอบให้ครบทุก Note ก่อนตัดสินใจซื้อจะได้ไม่ผิดหวังในภายหลังกันนะคะ

มาถึงตรงนี้ หวังว่าทุกคนคงจะได้รู้จักน้ำหอมแต่ละประเภทและเข้าใจรูปแบบของน้ำหอมมากขึ้นกันแล้วใช่ไหมคะ? ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องกลิ่นเท่านั้นที่เราต้องให้ความสำคัญ แต่ยังต้องเลือกจากประเภทให้โดนใจเพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน เพราะน้ำหอมแต่ละประเภทมีผลต่อระยะเวลาการระเหยของกลิ่นหอมด้วย อันดับต่อไปมาดูกันดีกว่าค่ะว่า จะมีน้ำหอมยอดฮิตขายดีรุ่นใดที่จะถูกใจสาว ๆ วัย 30 อย่างคุณบ้าง

น้ำหอมแบรนด์หรูจากประเทศอังกฤษ ซึ่งกลิ่น Peony & Blush Suede นี้มีเบสกลิ่นหอมจากดอกพิโอนี่หรือโบตั๋นที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความบอบบาง น่าทะนุถนอมของผู้หญิง แต่ยังแฝงด้วยความซุกซนของกลิ่นที่ได้จากสารสกัดผลแอปเปิ้ลสีแดง แล้วยังมีกลิ่นของดอกไม้นานาชนิด เช่น ดอกมะลิ, ดอกกุหลาบ, ดอกคาร์เนชั่นรวมเข้าไว้อีกด้วย

เมื่อใช้จะได้สัมผัสกลิ่นแบบหวานละมุนของดอกไม้แต่ยังคงอบอุ่น อ่อนโยนและมีเสน่ห์น่าค้นหา มี Base Note ที่ชูโรงให้กลิ่นดอกพิโอนี่โดดเด่นและปลุกความมีชีวิตชีวาให้คุณในทุก ๆ วัน กลิ่นไม่หวานเลี่ยน ไม่ฉุนแรงกระแทกจมูก ไม่ต้องกลัวรบกวนผู้คนรอบข้างเลยค่ะ
แบรนด์ดังระดับโลกที่ไม่ได้ดีเด่นด้านสกินแคร์และเมคอัพเท่านั้น แต่ยังมีน้ำหอมสำหรับผู้หญิงที่ได้รับความนิยมกันอยู่ด้วย ดังเช่น Pleasures รุ่นนี้ที่เป็นการผสมผสานของดอกไม้นานาพันธุ์ ให้สัมผัสด้านกลิ่นอย่างลงตัว รอบกายอบอวลราวกับอยู่ในท่ามกลางสวนดอกพฤกษศาสตร์ กลิ่นไม่หวานเลี่ยน แถมยังช่วยเสริมลุคผู้หญิงวัยทำงานได้เป็นอย่างดี

Top Note เป็นกลิ่นดอกลิลลี่ขาวและความหอมจากพืชน้ำสีเขียวอย่างใบไวโอเลท กลิ่น Middle note เป็นกลิ่นดอกไม้นานาชนิดและสุดท้าย Base Note เป็นกลิ่นอบอุ่นจากไม้แซนดร้า วู้ด แพชชัวลี เหมาะกับคนที่ชอบความสดชื่น มีชีวิตชีวาของดอกไม้หลังสายฝนโปรยปราย ให้ความรู้สึกรื่นรมย์ยาวนานเพราะเป็นน้ำหอมชนิดเข้มข้นค่ะ
แบรนด์ Hi-End จากประเทศอังกฤษ แต่น้ำหอมรุ่นนี้ผลิตขึ้นที่ฝรั่งเศสดินแดนที่เล่ากันว่าเป็นต้นกำเนิดของน้ำหอม ให้กลิ่นหอมสดชื่นจากผลไม้ มอบสัมผัสหอมหวานแบบซุกซนปนด้วยความเซ็กซี่ชวนให้หลงใหล มีเบสกลิ่นจากดอกพิโอนี่สีชมพูผสมผสานกับกลิ่นขององุ่นดำ ไม่เพียงเท่านั้น ยังได้ดึงเอากลิ่นหอมจาก Musk นำพาให้คุณสัมผัสได้ถึงความหอมละมุนที่ไม่หวานเลี่ยน แต่ให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวาแบบสบาย ๆ

รุ่นนี้เป็นน้ำหอมชนิดที่ผสมหัวน้ำหอมประมาณ 5 – 15% ให้กลิ่นหอมติดทนนานระดับกลาง ๆ ไม่ทำลายโสตประสาททางการรับกลิ่นทั้งผู้ใช้และคนรอบข้างเพราะให้กลิ่นหอมเบา ๆ สบาย ๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่พรมบนผิวค่ะ
ติดโผอีกรุ่นแล้วสำหรับเอสเต้ ลอเดอร์ รุ่นนี้เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อสะท้อนตัวตนของผู้หญิงยุคใหม่ที่แข็งแกร่ง มั่นใจ กระฉับกระเฉงแต่ยังมีความเซ็กซี่มีเสน่ห์ให้เห็นอยู่ เลือกนำกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิดมาใช้ อาทิ กุหลาบหลายสายพันธุ์, ผลราสเบอรี่, ดอกแมกโนเลียและดอกมะลิ

นอกจากนี้ยังผสมพิมเสนซึ่งเป็นพืชสมุนไพรให้กลิ่นหอมเย็นสดชื่น สะท้อนภาพของหญิงสาวที่มากล้นด้วยประสบการณ์ ชอบความสนุกท้าทายในชีวิต ถือเป็นน้ำหอมที่บ่งบอกรสนิยมชั้นเยี่ยม ให้คุณภาพกลิ่นที่เข้มข้นติดทนยาวนาน เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้ในชีวิตประจำวันของสาว ๆ วัย 30 ค่ะ
น้ำหอมในตระกูล Flora ที่นำเอากลิ่นหอมเอกลักษณ์ของผลเบอร์รี่สีแดงมาเป็น Top Note และตามด้วยกลิ่นหอมหวานของดอกพุด หรือ White Gardenia และดอกลีลาวดี ผสมผสานกับความหอมที่สกัดได้จากพืชตระกูล Patchouli ตลอดจนนำกลิ่นหอมของน้ำตาลทรายแดง มารวมเข้าอย่างลงตัวเกิดเป็น Base Note ที่ได้ความรู้สึกหอมหวาน ละมุนละไมแบบผู้หญิง

นอกจากนี้ ความพิเศษกว่าใครอยู่ตรงแพ็คเกจที่ออกแบบด้วยสีสันสดใสตามแบบฉบับของ Flora ซึ่งลวดลายนี้ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง Vittorio Accornero ในช่วงศตวรรษที่ 1960 สะท้อนถึงความหรูหรา คลาสสิก ดูมีระดับไม่เสื่อมคลายตั้งแต่แรกเห็นเลยทีเดียว
แบรนด์ “โคลเอ”ที่ให้ภาพลักษณ์สะท้อนความเป็นผู้หญิงที่รักอิสระ ทันสมัยและคงไว้ซึ่งความสง่างาม น้ำหอมรุ่นนี้เป็น Signature ของแบรนด์ที่พยายามบ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้หญิงด้วยกลิ่นหอมจากดอกไม้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น Peony และ Freesia ที่นำมาผสมกับความสดชื่นจากลิ้นจี่และซีดาร์วู้ดที่ให้กลิ่นแห่งความสงบ ปรับสมดุลด้านอารมณ์

สัมผัสกลิ่นแรกที่ได้รับเป็นความหอมดอกไม้ สื่อถึงความอ่อนหวานของผู้หญิง แล้วเป็น Middle Note จากกลิ่นกลีบกุหลาบและดอกแมกโนเลีย ปิดท้ายด้วยความหอมละมุน อบอุ่นจากซีดาร์วู้ดและอำพันทะเล ใช้แล้วให้ความรู้สึกถึงพลังสาวสวยสตรอง มีความมั่นใจและมีเสน่ห์มากล้นจนใคร ๆ ก็อยากเข้าหา
อีกหนึ่งแบรนด์ Hi-End ที่สะท้อนภาพลักษณ์ของ Unisex และความเป็นผู้ใหญ่ มีความคลาสสิคแต่ทันสมัยไปในคราวเดียวกัน น้ำหอมกลิ่นนี้เป็นสินค้าในไลน์ Private Blend ตัวท็อปของแบรนด์ จุดเด่นคือให้กลิ่นหอมของกุหลาบที่ไม่หวานเลี่ยนแต่สอดแทรกความนุ่มลึกน่าค้นหา ให้อารมณ์ความแปลกใหม่อันน่าตื่นเต้นและเซ็กซี่เย้ายวนแบบไม่ต้องพยายาม

รุ่นนี้เปิดความหอมด้วยกลิ่นกุหลาบ เมื่อเวลาผ่านไประเหยเป็นกลิ่นอายของกาแฟผสมผสานกับดอกกุหลาบหอมโชยเย้ายวน รวมถึงมีกลิ่นของเครื่องเทศหวานปนขมของหญ้า Saffron หลงเหลือเป็น Base Note ติดตัว แม้จะแพงแต่ใช้เพียงน้อยนิดก็ติดทนนานแล้ว ทำให้หลายคนติดใจหลงใหลเพราะคุ้มค่าแก่การลงทุน เป็นของที่ต้องมี! สาว ๆ วัยนี้ไม่ควรพลาดเลยค่ะ
น้ำหอมแบรนด์ดังสัญชาติอิตาลีที่ถูกใจสาว ๆ ด้วยความพิเศษที่ให้กลิ่นหอมของดอกไม้สไตล์คลาสสิก สะท้อนความอบอุ่นนุ่มนวล เสน่ห์ที่น่าเข้าหา เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของดอกไม้นานาชนิด ได้แก่ ดอกบัว, ดอกแมกโนเลียและดอกพิโอนี่ รวมถึงให้สัมผัสกลิ่นแบบฟรุตตี้เบา ๆ จากส้มยูซุ และความละเอียดอ่อนจาก Musk ด้วย ก่อเกิดเป็นน้ำหอมที่ทำให้คุณรู้สึกดีได้ตลอดวัน

รุ่นนี้มาในรูปแบบน้ำหอมที่ไม่เข้มข้นมาก ได้ Note แต่ละชั้นใกล้เคียงกัน คือได้สัมผัสความหอมหวานตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด โดยกลิ่นไม่ฉุนแรงเกินไปและติดแน่นทนนาน เหมาะกับการใช้ในชีวิตประจำวันอย่างยิ่ง มาในแพ็กเกจหรูหราไฮโซ มีความเป็นผู้หญิงอย่างมาก
น้ำหอมรุ่นนี้ก็มีการใช้ชื่อภาษาฝรั่งเศสซึ่งแปลความได้ว่า Life is beautiful มีส่วนผสมของใบ Patchouli รวมเข้ากับ Iris Gourmand ที่ให้กลิ่นหอมหวานของเครื่องเทศและผลไม้มาเป็น Base Note ปรับจากกลิ่นหอมหวานจากดอกไม้ที่อาจจืดจางให้กลายเป็นความหวานนุ่มลึกแต่ทรงเสน่ห์แบบผู้ใหญ่ เย้ายวนด้วยกลิ่นเครื่องเทศแบบเผ็ดร้อน หนักแน่นแต่ไม่ฉูดฉาดมากเกินไป

น้ำหอมกลิ่นนี้จะช่วยให้สาว ๆ ได้เสริมลุคความอ่อนหวานแต่แฝงความแข็งแกร่ง ความเป็นผู้หญิงทรงเสน่ห์ เป็นกลิ่นที่ไม่ได้มีมิติเดียวแต่มีความซับซ้อนเหมือนกับชีวิตที่กว่าจะพบความสุขก็ต้องค้นหา ปรับประยุกต์และทดลองกันอยู่หลายที
น้ำหอม Miss Dior รุ่นขายดีตลอดกาลของแบรนด์ มีเอกลักษณ์ของความหอมหวานแบบผู้หญิงอ่อนหวาน แต่ยังแฝงด้วยความซุกซนน่าค้นหาและคงไว้ซึ่งความหรูหราสง่างาม เลือกผสมความรู้สึกมีชีวิตชีวาจากมะกรูดคาริบเบียน (Calabrian Bergamot) เสริมความหอมอันละเอียดอ่อนจากดอกพิโอนี่และกุหลาบ อีกทั้งยังเติมแต่งกลิ่นให้โดดเด่นมีเอกลักษณ์ยิ่งขึ้นด้วย White Musks

น้ำหอมรุ่นนี้จะช่วยเสริมสร้างความโดดเด่นให้ผู้หญิงมีลุคสง่างาม มีเสน่ห์น่าค้นหา ซึ่งไม่ใช่ในแบบการเชิญชวนแต่เป็นในแบบของการแผ่ออร่าสู่คนรอบข้างให้หลงใหลอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องพยายามค่ะ สาว ๆ หลายคนชื่นชอบเพราะกลิ่นติดทนยาวนาน
การฉีดน้ำหอมให้ติดทนนานนั้นไม่ควรฉีดลงบนเสื้อผ้าเพราะอาจทำให้กระจายกลิ่นไม่ดีและไม่ติดทน แต่ควรฉีดพรมลงบนร่างกายโดยตรง โดยเฉพาะในจุดชีพจรและข้อพับต่าง ๆ เช่น ข้อศอก, ข้อมือ, หลังใบหู และบริเวณที่เป็นจุดไหลเวียนโลหิตซึ่งจะมีอุณหภูมิอุ่นเป็นพิเศษทำให้กลิ่นหอมดูดซับเข้าสู่ผิวได้ดี ทำให้กลิ่นติดทนนานขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ น้ำหอมจะซึบซาบสู่ผิวได้ดีเมื่อมีความชุ่มชื้นพอเหมาะ หากเป็นไปได้ก็ควรฉีดพรมน้ำหอมหลังทาโลชั่นและหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ทันทีค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? ได้เห็นแล้วใช่ไหมว่าเรื่องราวของน้ำหอมนั้นมีรายละเอียดมากมายที่คุณต้องใส่ใจก่อนการเลือกซื้อ เพราะน้ำหอมไม่ใช่แค่การพรมกลิ่นหอมโดนใจบนร่างกายแต่มันยังสะท้อนรสนิยมและบุคลิกภาพของคุณเองด้วย สาว ๆ วัย 30 ปีทั้งหลายก็คงได้ไอเดียการเลือกซื้อน้ำหอมที่เหมาะสมกับสไตล์และวัยกันไปแล้ว หวังว่าจะได้ประโยชน์จากบทความดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันในครั้งนี้เช่นเคย แล้วไว้พบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ!