น่าซื้อ 10 อันดับ สกินแคร์เกาหลี ที รุ่นไหนดี รีวิวเพียบ อัพเดทล่าสุดปี 2567

หากคุณกำลังมองหา คูปองส่วนลดมากมาย มีให้เลือกหลากหลาย ส่งฟรี ส่งไว เก็บเงินปลายทาง ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง ช้อปได้ที่ร้านค้าแนะนำของเรา
ราคาพิเศษมาแนะนำลูกค้าที่น่ารัก ราคาถูกมาก เราแนะนำเลยเจ้านี้ สกินแคร์เกาหลี  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง สกินแคร์เกาหลี  ไป ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาจะลดลงอีกลองเข้าไปดูที่ร้านได้ ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ จัดส่งรวดเร็ว ของพรีเมี่ยม ตอนนี้ลองใช้มาซักพักใช้ได้ดี ไม่มีปัญหา

     
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อสกินแคร์เกาหลีแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง สกินแคร์เกาหลี นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในสกินแคร์เกาหลีอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ สกินแคร์เกาหลีแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้

เชื่อว่า สกินแคร์เกาหลี เป็นสิ่งที่ใครหลายคนจะต้องนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ หากเอ่ยถึงประเทศเกาหลี โดยเฉพาะหลายคนเมื่อเห็นสภาพผิวหน้าอันเรียบเนียนและกระจ่างใสของทั้งดาราและไอดอลของสาวเกาหลีแล้ว ก็คงอยากจะใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มาจากประเทศเกาหลีตามไปด้วย ถ้าเป็นสมัยก่อนก็อาจจะต้องบินไปซื้อถึงประเทศเกาหลีใต้หรือฝากใครต่อใครซื้อมาให้จึงจะได้ใช้สกินแคร์แบรนด์เกาหลี แต่ยุคสมัยนี้มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์สกินแคร์จากเกาหลีเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่า แทบไม่ต้องบินไปซื้อถึงที่เกาหลีเลย เพราะมีให้เลือกเกือบจะครบทุกแบรนด์แล้ว


สกินแคร์เกาหลีที่วางจำหน่ายก็มีมากมายหลายยี่ห้อไม่ว่าจะเป็น Sulwhasoo, Etude, innisfree, Skinfood เป็นต้น โดยแต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่จะเลือกอย่างไรถึงจะเข้ากับสภาพผิวของเรา ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการเลือกสกินแคร์แทบทุกชนิด วันนี้เราจึงนำเอาทั้งวิธีการเลือกซื้อและ 10 อันดับ สกินแคร์เกาหลีที่หลายคนการันตีว่าคุณควรจะมีเอาไว้ในครอบครองมาให้คุณได้เป็นไอเดียกันด้วยค่ะ

ความนิยมของสกินแคร์เกาหลีนั้นนอกจากจะเกิดจากอิทธิพลของวงการบันเทิงเกาหลีที่แผ่ขยายไปทั่วโลกแล้ว ยังเกิดจากคุณภาพที่ได้รับจากการพัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอของวงการสกินแคร์เกาหลี จนใครหลายคนต่างก็ยกให้วงการความสวยความงามของเกาหลีนั้นมีความก้าวหน้ามากที่สุดในโลก สามารถผลิตสินค้าออกมาตอบโจทย์ความต้องการและแก้ไขปัญหาผิวหน้าได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุม นอกจากนี้ยังมีหลายระดับราคาให้เลือกใช้ตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ที่สำคัญยังหาซื้อได้ไม่ยาก เพราะในปัจจุบันนี้มีหลายแบรนด์สกินแคร์เกาหลีที่ถูกนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยอย่างถูกต้องทำให้คุณไม่ต้องบินไปซื้อเองหรือพรีออร์เดอร์ให้ยุ่งยากเหมือนสกินแคร์จากประเทศอื่น ๆ เลยค่ะ

อย่างที่เราได้บอกไปแล้วว่าสกินแคร์เกาหลีนั้นมีให้เลือกซื้อกันมากมายเลยทีเดียว ถึงจะมีราคาที่ไม่แพงมาก แต่หากคุณซื้อมาแล้วไม่สามารถแก้ไขปัญหาผิวหรือตอบโจทย์ความต้องการก็จะเป็นการสิ้นเปลืองเงิน ดังนั้นมาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าการเลือกสกินแคร์เกาหลีให้ถูกใจคุณนั้นมีอะไรที่คุณต้องรู้บ้าง

สิ่งสำคัญอย่างแรกสุดที่คุณต้องรู้ก่อนจะเลือกซื้อสกินแคร์เกาหลี ก็คือประเภทของสกินแคร์นั่นเอง โดยส่วนนี้มีผลอย่างมาก เพราะแต่ละประเภทนั้นมีความจำเป็นต่อกระบวนการดูแลผิวในแบบฉบับของคนเกาหลี (Korean Skincare Routine)

Cleansing เป็นกลุ่มสกินแคร์ลำดับแรกในกระบวนการดูแลผิว โดยหน้าที่หลักคือช่วยทำความสะอาดผิวหน้า โดยคนเกาหลีนั้นใช้การ Double Cleansing ด้วย Cleansing ที่เป็นน้ำมัน โลชั่นหรือบาล์ม เพื่อกำจัดคราบเครื่องสำอาง กันแดด หรือความสกปรกออกจากผิวหน้า ก่อนจะตามด้วย Cleansing ที่เป็น Gel หรือ Foam ในการทำความสะอาดตามมาอีกทีเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกที่อาจจะหลงเหลือตามรูขุมขนเพื่อให้มั่นใจว่าผิวหน้านั้นสะอาดหมดจด

หน้าที่หลักของ สกินแคร์ที่เป็น Exfoliator คือการช่วยผลัดและขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้ออกไป เพื่อกระตุ้นให้ผิวมีการสร้างเซลล์ผิวใหม่เพิ่มขึ้น ผิวของคุณก็จะกลับมาดูกระจ่างใสและเรียบเนียนกว่าเดิม นอกจากนี้ Exfoliator บางชนิดยังสามารถช่วยขจัดสิ่งอุดตันที่อยู่ลึกในเซลล์ผิวให้สลายไป ใครที่มีปัญหาสิวอุดตันต่าง ๆ ก็ควรใช้สกินแคร์ชนิดนี้เข้าช่วยดูแลด้วย Exfoliator ที่วางขายนั้นจะมีตั้งแต่สครับขัดผิวไปจนถึง Exfoliator Pad ที่เป็นสำลีตาข่ายบาง ๆ สามารถช่วยขัดผิวได้เช่นเดียวกับสครับ ทั้งนี้การใช้ Exfoliator นั้นควรทำแค่เพียง 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น เพราะถ้ามากเกินไปก็จะทำให้ผิวของคุณบางและเกิดการแห้งลอกได้

Toner นั้นเป็นสกินแคร์ที่ใช้หลังจากขั้นตอนการล้างหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนมักจะมองข้าม แต่ความจริงแล้วเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งในการดูแลผิว เพราะ Toner นั้นจะช่วยให้คุณเช็ดความสกปรกที่อาจจะหลงเหลือจากการทำความสะอาดผิวหน้าออก อีกทั้งยังช่วยเตรียมผิวโดยการปรับสมดุลผิวให้มีความเหมาะสมสำหรับขั้นตอนการลงสกินแคร์บำรุงผิวต่อไป ซึ่งผิวที่ขาดความสมดุลก็จะไม่สามารถซึมซับสารบำรุงในสกินแคร์ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น Toner จะเป็นตัวช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้

เชื่อว่าชื่อของสกินแคร์ทั้ง 3 ประเภทนี้มักทำให้หลาย ๆ คนต้องปวดหัวอยู่เสมอว่า ตกลงทั้ง 3 อย่างนั้นเหมือนกันหรือไม่ ซึ่งจริง ๆ แล้ว สกินแคร์ทั้ง 3 ชนิดนี้มีจุดประสงค์หลักที่เหมือนกัน คือ ดูแลปัญหาผิวอย่างตรงจุด แต่จะแตกต่างกันตรงที่ความเข้มข้นของ Active Ingredient และเนื้อสัมผัส ซึ่งตัว Essence จะมีความเข้มข้นน้อยที่สุดและมีเนื้อสัมผัสบางเบาที่สุด ในขณะที่ Serum จะมีความเข้มข้นมากเป็นอันดับ 2 และมีเนื้อสัมผัสค่อนข้างหนัก


สำหรับ Ampoule นั้นจะมีความเข้มข้นและเนื้อสัมผัสหนักที่สุด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวหนังแนะนำให้ใช้ Ampoule แค่ในช่วงที่ผิวต้องการการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วนเท่านั้น เนื่องจากมีราคาที่ค่อนข้างสูง ทั้งนี้สกินแคร์เกาหลีบางยี่ห้ออาจจะใช้ชื่อเรียกที่สับสนใน 3 ตัวนี้ คุณจึงควรพิจารณาดูจากความเข้มข้นและเนื้อสัมผัสเป็นหลัก

สกินแคร์ประเภท Moisturizer นั้นมีความจำเป็นอย่างมากในกระบวนการดูแลผิว เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นและเพิ่มความแข็งแรงให้กับเกราะของชั้นผิวเพื่อป้องกันผิวจากมลภาวะต่าง ๆ ได้ Moisturizer มีให้เลือกกันหลายแบบตั้งแต่แบบเนื้อครีม โลชั่น ไปจนถึงเนื้อเจล ซึ่งแตกต่างกันไปในความหนักเบาของเนื้อสัมผัส ดังนั้น ใครที่มีสภาพผิวมันควรจะใช้แบบโลชั่นหรือเจลที่มีเนื้อสัมผัสเบา ซึมไว ไม่อุดตันง่าย ส่วนผิวแห้งนั้นแนะนำให้เลือกใช้ที่เป็นเนื้อครีม เพราะมีความเข้มข้นสามารถเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างเต็มที่

สกินแคร์ประเภทนี้จะมาทั้งในรูปแบบของแผ่นกระดาษหรือที่เรารู้จักกันว่า Sheet Mask หรือแบบเจลที่ทาทิ้งเอาไว้ข้ามคืนอย่าง Sleeping Mask ซึ่งจุดประสงค์ของสกินแคร์ตัวนี้ก็คือ ช่วยฟื้นบำรุงผิวในเวลาเร่งด่วน ถ้าหากใครที่พบว่าผิวมีความอ่อนแอและดูโทรมก็สามารถใช้สกินแคร์ตัวนี้ในการดูแลผิว รับรองได้เลยว่าจะช่วยให้คุณออกไปพบเจอผู้คนด้วยผิวที่ดูเปล่งปลั่งดูสดใสมากขึ้นเลยค่ะ

สกินแคร์เกาหลีนั้นมีความโดดเด่นในเรื่องของส่วนผสมที่ใช้เพื่อบำรุงผิว ซึ่งมีให้เลือกมากมายหลายชนิดด้วยเช่นกัน มาดูกันดีกว่าค่ะว่า ตัวหลัก ๆ ที่ได้รับความนิยมจะมีอะไรกันบ้างและช่วยดูแลผิวของเราอย่างไร

แน่นอนว่าส่วนผสมชนิดแรกสำหรับสกินแคร์เกาหลีจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก 'โสม' ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของเกาหลีกันเลย โสมนั้นนอกจากจะเป็นสมุนไพรที่ใช้รับประทานเพื่อเป็นยาอายุวัฒนะแล้ว ยังมีคุณสมบัติด้านการดูแลผิวพรรณที่โดดเด่น โดยช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในผิว ทำให้ผิวของคุณมีพลังและไม่เสื่อมสภาพได้ง่าย ช่วยปรับผิวที่เคยหมองคล้ำให้กลับมาดูกระจ่างใสและดูเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์ด้วย

Hyaluronic Acid เป็นสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยการเพิ่มความแข็งแรงให้กับชั้นผิวเพื่อลดการสูญเสียน้ำออกจากเซลล์ผิวได้เป็นอย่างดี ซึ่งโดยปกติแล้วสารชนิดนี้ร่างกายของเราจะสามารถสร้างเองได้ แต่เมื่ออายุที่เพิ่มขึ้นและปัจจัยภายนอกจากสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ ก็ทำให้ Hyaluronic Acid ที่สร้างในผิวไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้นการเพิ่มการบำรุงด้วยสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Hyaluronic Acid ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากทีเดียว

สารสกัดจากเมือกหอยทากหรือ Snail Mucin นั้นเป็นกลุ่มโปรตีนที่มีคุณสมบัติในการซ่อมแซมผิวที่เสื่อมสภาพ สามารถสมานรอยแผลเป็น รอยด่างดำได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่จึงช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัยได้ในตัว ดังนั้นใครที่มีปัญหาผิวเป็นรอยแผลหลุมสิว หรือ รอยตีนกาต่าง ๆ ก็ควรมองหาสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Snail Mucin มาลองใช้กันดูนะคะ

สารสกัดจากรังผึ้งหรือ Propolis Extract นั้นเป็นสารจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสิวหรือผดผื่น นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการอักเสบ หรือระคายเคืองของผิวได้ จึงกลายเป็นสารสกัดที่สกินแคร์เกาหลีหลายยี่ห้อนำมาใช้ในการดูแลผิวของคนที่เป็นสิวหรือมีผิวแพ้ง่ายค่ะ

เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่เพิ่งจะโด่งดังเมื่อไม่นานมานี้ Centella Asiatica Extract หรือที่เราอาจจะเห็นกันในชื่อของ Madecassoside ซึ่งเป็นสารสกัดจากใบบัวบก มีฤทธิ์สำคัญในการปลอบประโลมผิวจากอาการอักเสบต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอจากการถูกทำลายให้คืนสภาพกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม จึงกลายเป็นส่วนผสมที่สกินแคร์เกาหลีหลายแบรนด์พยายามใส่ในตัวสินค้า เพราะปัจจุบันพบว่า มลภาวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะแสงแดดหรือฝุ่นมีส่วนที่ทำลายผิวให้อ่อนแอและเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นสารสกัดจากใบบัวบกจะช่วยในจุดนี้ได้

น้ำหอมและสีที่ใส่มาในสกินแคร์โดยส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยมีความจำเป็นและกระตุ้นให้ผิวเกิดอาการแพ้ได้ หากเป็นไปได้ควรเลือกสกินแคร์ที่ไม่มีการใส่สารสังเคราะห์ดังกล่าว รวมไปถึงแอลกอฮอล์ ซึ่งมักจะทำให้ผิวเกิดการสูญเสียความชุ่มชื้นได้ แนะนำให้เลือกสกินแคร์ที่มีแอลกอฮอล์ในเปอร์เซนต์ที่ต่ำหรือไม่มีเลย ในขณะที่สารกันเสียนั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าทำให้ผิวเกิดการแพ้ด้วยหรือเปล่า ซึ่งถ้าคุณมีผิวที่อ่อนแอมาก ๆ ให้หลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาดจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ต่อให้คุณจะเลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมดีเลิศแค่ไหน ก็อาจจะไม่เห็นผลในการดูแลผิว มิหนำซ้ำยังทำให้ผิวของคุณเกิดอาการแพ้และอักเสบตามมาได้ค่ะ

ถึงจะมีสกินแคร์แบรนด์เกาหลีให้เลือกซื้ออย่างมากมาย แต่คุณต้องระวังเพราะปัจจุบันนี้มีหลายยี่ห้อที่ไม่ได้มาตรฐานและใช้ชื่อสินค้าที่ทำให้ดูเหมือนมาจากเกาหลีมาหลอกให้ผู้บริโภคซื้อมาใช้ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ให้เลือกแบรนด์สกินแคร์เกาหลีที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดี ถ้ามีหน้าร้านทางการในประเทศไทยก็จะยิ่งน่าเชื่อถือมากขึ้น รวมทั้งยังต้องได้รับการรับรองมาตรฐานทั้งจากในประเทศเกาหลีเองและจากในไทยด้วยเช่นกัน

มาถึงในส่วนที่หลายคนรอคอยว่าสกินแคร์เกาหลีตัวไหนบ้าง ที่ผู้ใช้โดยส่วนใหญ่แนะนำกันว่าต้องมีเอาไว้บนโต๊ะเครื่องแป้งของคุณ รับรองได้เลยว่าครอบคลุมทุกความต้องการและหาซื้อได้ไม่ยากอีกด้วย

Toner ตัวดังที่ได้รับเสียงตอบรับในทางบวกจากผู้ใช้ทั่วโลก ด้วยการใช้ส่วนผสมหลักเป็นน้ำดอกกุหลาบบัลแกเรียที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลผิวได้อย่างอ่อนโยน เพราะในดอกกุหลาบนั้นมีสารที่ช่วยให้ทั้งผิวและผู้ใช้รู้สึกผ่อนคลาย ผู้ใช้บางคนยังรักที่หลังการเช็ดด้วย Toner แล้วทำให้ผิวมีความรู้สึกสดชื่นพร้อมที่จะรับการบำรุงในขั้นตอนถัดไปด้วย

SKINFOOD เป็นแบรนด์ที่เน้นการใช้ส่วนผสมที่มาจากอาหารที่เรารับประทานได้ โดย Essence ตัวนี้ทางแบรนด์ได้เน้นการใช้สารสกัดจากรังผึ้งและน้ำผึ้ง ที่มียับยั้งเชื้อโรคต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวอักเสบ อีกทั้งยังสามารถเติมเต็มความชุ่มชื้น คืนความนุ่มเนียนให้ผิวอีกด้วย ผู้ใช้หลายคนถูกใจในเรื่องของการลดรอยแดงจากการอักเสบของสิวได้ อีกทั้งยังซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วไม่ทิ้งความเหนียวไว้บนใบหน้า

ครีมบำรุงตัวนี้ถือได้ว่าจัดเต็มสารบำรุงหลักถึง 2 ชนิดอันได้แก่ สารสกัดจากเมือกหอยทาก (Snail Mucin) และสารสกัดจากโสม (Ginseng Extract) จึงช่วยดูแลผิวที่มีปัญหาผิวเสื่อมสภาพจากอายุ ลดเลือนริ้วรอยให้จางลง ซ่อมแซมผิวที่เสียหายจากอนุมูลอิสระ ปรับผิวที่เคยหมองคล้ำให้กลับมาดูกระจ่างใส หลายคนประทับใจเพราะช่วยให้ผิวกลับมาดูนุ่มเนียนขึ้น และสำหรับกลุ่มคนที่ผิวแห้งกร้านก็พบว่าผิวชุ่มชื้นขึ้นด้วย

Sleeping Mask ของ Laneige นั้นได้รับความนิยมมายาวนาน เพราะมีคุณสมบัติในการเติมความชุ่มชื้นและฟื้นบำรุงผิวจากความแห้งกร้านได้เพียงชั่วข้ามคืนด้วยเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการดูแลผิวในขณะนอนหลับโดยเฉพาะ ผู้ใช้ส่วนมากยังชื่นชอบที่ตัวสกินแคร์นั้นมีเนื้อสัมผัสที่บางเบาและซึมลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายในขณะใช้งานอีกด้วย

สกินแคร์ที่ใช้ส่วนผสมแนว Cicapair นั้นกำลังมาแรงในปัจจุบัน เพราะเป็นการนำเอา Madecassoside จาก Centella Asiatica Extract มาฟื้นบำรุงผิว ซึ่งเซรั่มตัวนี้ก็ผลิตภายใต้แนวคิดเดียวกัน โดยเน้นการซ่อมแซมผิวอ่อนแอจากรอยแดงและปลอบประโลมผิวที่อ่อนแอและแพ้ง่ายให้กลับมาแข็งแรง จากความเห็นผู้ใช้ส่วนใหญ่เห็นผลในเรื่องของผิวที่มีสุขภาพดีขึ้น ทั้งสิวและผดผื่นที่เกิดจากการแพ้นั้นลดลงอีกด้วย

Cleansing Balm ตัวนี้ได้รับการจัดอันดับทั้งในเกาหลีและไทยอยู่บ่อยครั้ง จุดเด่นที่ทำให้ใครหลายคนหลงรักนั้นก็คือความสามารถในการขจัดคราบเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกที่อยู่บนใบหน้าออกไปได้อย่างหมดจด โดยที่ไม่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นหลังจากที่ใช้ นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังใช้ส่วนผสมที่อ่อนโยนและไม่ทำร้ายผิว หลายคนยังชื่นชอบที่ใช้แล้วทำให้ผิวรู้สึกผ่อนคลายเพราะมีส่วนผสมของน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ

สกินแคร์ตัวนี้เรียกได้ว่ากำลังฮอตฮิตกันเลยทีเดียว เพราะเป็น Exfoliator ที่มาในรูปแบบของสำลีแผ่นบางที่มีความหยาบเอาไว้ผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ มีส่วนผสมของ Tea Tree Oil เป็นส่วนประกอบ จึงช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวได้อีกด้วย ผู้ใช้ในกลุ่มที่มีปัญหาสิวอยู่บ่อย ๆ ต่างก็ติดใจที่ Exfoliator ตัวนี้สามารถลดการเกิดสิวได้อย่างเห็นผล อีกทั้งยังทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย

นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเซรั่มชาเขียวของ Innisfree อย่างแน่นอนค่ะ เพราะเซรั่มตัวนี้กลายเป็นสกินแคร์เกาหลีลูกรักของใครหลายคน เนื่องจากใช้ส่วนผสมสารสกัดจากชาเขียวที่มาจากเกาะเชจู ซึ่งสกัดมาแล้วมีกรดอะมิโนบำรุงผิวถึง 16 ชนิด นอกจากจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวแล้ว ยังเพิ่มความแข็งแรงให้เกราะป้องกันผิวและปลอบประโลมผิวที่อ่อนแอได้ดีอีกด้วย หลายคนยังถูกใจเนื้อสัมผัสที่บางเบาและซึมได้ง่าย ใช้แล้วเหมาะกับสภาพอากาศในเมืองไทยค่ะ

Etude ไม่ได้มีชื่อเสียงแค่เรื่องเมคอัพเพียงอย่างเดียว สกินแคร์ของแบรนด์นี้ก็ได้รับความชื่นชมอยู่บ่อยครั้ง โดย Toner ตัวนี้เป็นหนึ่งในสกินแคร์ที่ถูกใจผู้ใช้หลายคน เพราะเน้นความอ่อนโยนของผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเป็นกรดอ่อน ๆ ช่วยปรับสมดุลของผิวหน้าได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Madecassoside จาก Centella Asiatica ที่มีฤทธิ์ในการบรรเทาอาการอักเสบและปลอบประโลมผิวที่อ่อนแอได้อีกด้วย

สกินแคร์ตัวนี้ทางแบรนด์ Sulwhasoo ได้ใช้โสมคุณภาพพรีเมี่ยมจากเกาหลีเป็นส่วนผสมตั้งแต่รากจนถึงใบ อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยีแคปซูลอณูขนาดเล็กเพื่อช่วยส่งผ่านให้สารบำรุงซึมลงสู่ผิวได้อย่างเต็มที่ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ต่างก็การันตีในเรื่องของผิวที่ดูแข็งแรงและเปล่งปลั่งมากขึ้น ความหมองคล้ำดูลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลายคนยังรักที่เนื้อเซรั่มมีความบางเบาและมีกลิ่นหอมโสมอ่อน ๆ ที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายขณะใช้

จุใจกันไหมคะสำหรับสกินแคร์เกาหลีที่เราได้นำมาฝากทั้งความรู้เบื้องต้น วิธีการเลือกซื้ออย่างถูกต้องและ 10 อันดับสกินแคร์เกาหลี ที่เราแนะนำว่าคุณควรต้องลองหาซื้อมาใช้ดูสักครั้ง เราก็หวังว่าคุณจะได้ไอเดียในการดูแลตัวเองด้วยสกินแคร์เกาหลีเพิ่มเติมและเลือกซื้อสกินแคร์เกาหลีมาใช้ได้อย่างถูกใจกันมากขึ้นนะคะ


สกินแคร์เกาหลีถึงแม้ว่าจะมีข้อดีอยู่มากมาย แต่สาว ๆ คนไทยก็อย่าลืมว่าผลิตภัณฑ์บางอย่างนั้นถูกออกแบบมาเพื่อดูแลผิวในสภาพอากาศหนาวแบบเกาหลี ซึ่งทำให้เนื้อสัมผัสและส่วนผสมนั้นอาจจะไม่เหมาะกับสภาพอากาศในบ้านเราที่มีความร้อนกว่ามาก ดังนั้นถ้าเป็นไปได้เวลาที่สาว ๆ หาซื้อสกินแคร์เกาหลีมาใช้ ลองเริ่มต้นจาก Sample ที่มีขนาดเล็กก่อน หากใช้แล้วถูกใจก็ค่อยไปซื้อขนาดจริงในภายหลัง