เชื่อว่าสาว ๆ เกือบทุกคนคงต้องทาครีมกันแดดที่บริเวณใบหน้าเป็นประจำกันอยู่แล้ว แต่คงมีแค่ไม่กี่คนที่จะทาลิปมันกันแดดเพื่อป้องกันริมฝีปากจากรังสียูวีด้วย อย่างที่เรารู้กันดีว่า ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนและมีแดดแรงตลอดปี ฉะนั้นการใช้ลิปมันที่มีส่วนผสมแค่มอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างเดียวนั้นคงไม่เพียงพอ เพราะรังสียูวีอาจทำร้ายริมฝีปากของคุณให้หมองคล้ำหรือแห้งแตกได้ เราจึงอยากจะแนะนำให้คุณหันมาใช้ลิปมันที่มีส่วนผสมของสารกันแดดด้วย เพื่อปกป้องริมฝีปากของคุณให้เรียบเนียนอมชมพูและดูมีสุขภาพดีอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ลิปมันกันแดดในปัจจุบันไม่ได้มีคุณสมบัติแค่ป้องกัน UV เพียงอย่างเดียว ผลิตภัณฑ์บางยี่ห้อยังสามารถเปลี่ยนสีได้และอุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติเพื่อช่วยบำรุงให้ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื่น และเพื่อช่วยให้ทุกคนได้ค้นพบลิปกันแดดที่เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด วันนี้เราจึงนำวิธีการเลือกลิปมันกันแดดรวมไปถึงไอเทมยอดฮิต 10 อันดับมาแนะนำให้เป็นไอเดียประกอบการเลือกซื้อให้กับสาว ๆ ทุกคนค่ะ ตามมาดูกันเลยค่ะ
แม้ว่าลิปมันเป็นไอเทมพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่กลับมีคนเพียงบางส่วนเท่านั้นที่ตระหนักถึงคุณสมบัติการป้องกันรังสี UV ของไอเทมนี้ แล้วคุณสมบัติดังกล่าวสำคัญอย่างไร ทำไมเราจึงควรใช้ลิปมันกันแดด เรามาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า
ริมฝีปากเป็นส่วนที่บอบบางกว่าผิวส่วนอื่นและไม่มีต่อมไขมันที่คอยผลิตน้ำมันให้ความชุ่มชื้น ทำให้เกิดอาการแห้งลอกและแตกได้ง่าย นอกจากนี้บริเวณริมฝีปากยังไวต่อแสงแดดที่มาพร้อมรังสี UV ซึ่งเป็นตัวการของปัญหาริ้วรอยร่องลึกและความหมองคล้ำอีกด้วย ดังนั้นการเลือกลิปมันที่สามารถกันแดดได้จึงเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว
หลายคนตั้งคำถามว่าเราสามารถเอาครีมกันแดดสำหรับทาหน้ามาใช้ทาริมฝีปากได้หรือไม่ ขอบอกเลยค่ะว่า “ไม่ได้” เพราะครีมกันแดดสำหรับทาหน้าส่วนใหญ่มักมีค่า SPF สูง ซึ่งจะดูดซับน้ำมันทำให้ผิวแห้งตึงได้ง่าย ดังนั้นการนำครีมกันแดดมาใช้กับบริเวณริมฝีปากซึ่งเป็นบริเวณที่บอบบางและสูญเสียความชุ่มชื้นง่ายอยู่แล้วนั้น จึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่ริมฝีปากจะแตกและแห้งมากไปกว่าเดิมอีก
เพื่อสรุปให้เข้าใจง่ายสำหรับทุกคน เราจึงแบ่งวิธีเลือกลิปมันกันแดดออกเป็น 4 หัวข้อ ดังต่อไปนี้ค่ะ
เลือกจากค่า SPF・PA
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเลยเวลาเลือกลิปมันกันแดดก็คือ ประสิทธิภาพในการกันแดด โดยสามารถดูได้จากค่า SPF และ PA ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับเจ้าสองตัวนี้กันก่อนดีกว่า
SPF ย่อมาจาก Sun Protection Factor เป็นตัวระบุการป้องกันรังสี UVB ตัวการร้ายที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ ก่อให้เกิดจุดด่างดำและริ้วรอย โดยค่าของ SPF คือจำนวนเวลาที่ผิวจะสามารถทนต่อรังสี UVB ได้หลังจากทาครีมกันแดด แต่ค่า SPF สูงนั้นไม่ได้หมายความว่าจะดีเสมอไป เพราะยิ่งค่า SPF สูงก็ยิ่งทำให้ผิวอุดตันได้ง่าย เพราะฉะนั้นค่า SPF สำหรับทาผิวที่เหมาะสมคือ SPF 30 และสำหรับทาริมฝีปาก ลิปมันที่มี SPF 20 ก็เพียงพอแล้วค่ะ
ส่วนค่า PA นั้นเป็นค่าที่บ่งบอกถึงความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVA ที่คอยทำร้ายลึกลงไปถึงชั้นผิวด้านล่าง ทำลายคอลลาเจนหรือความยืนหยุ่นของผิว ทำให้ผิวหย่อนคล้อย มีริ้วรอยและดูแก่ก่อนไว ค่า PA แบ่งออกเป็น 3 ระดับคือ PA+, PA++ และ PA+++ ยิ่งมีค่า + มากเท่าไหร่ ความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UVA ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น แต่เนื่องจากผิวบริเวณริมฝีปากบอกบาง ดังนั้นลิปมันที่มีค่า PA++ ก็เพียงพอแล้ว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมาตรฐานเกี่ยวกับ PA นี้ถูกตั้งขึ้นโดยประเทศญี่ปุ่น สินค้าจากประเทศอื่น ๆ อาจจะไม่ระบุค่า PA ก็เป็นได้ อย่างเช่นในสหรัฐอเมริกา กรณีที่เครื่องสำอางนั้น ๆ สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA/UVB จะระบุรวม ๆ ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็น Broad Spectrum แทนค่ะ
ลิปมันกันแดดที่มีค่า SPF สูงอาจทำให้ริมฝีปากแห้งตึงได้ง่าย การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ซึ่งลิปมันกันแดดในปัจจุบันส่วนมากก็จะมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นกับริมฝีปากอยู่มากมาย อย่างเช่นโจโจบาออยล์, Shea Butter และน้ำผึ้ง ซึ่งล้วนเป็นสารจากธรรมชาติที่ให้ความชุ่มชื้นสูง ดังนั้นเวลาเลือกลิปมันกันแดดควรมองหาส่วนผสมเหล่านี้บนฉลากเพื่อให้มั่นใจว่าลิปมันที่คุณเลือกมีมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพียงพอ
ลิปมันกันแดดเป็นสิ่งที่สัมผัสกับริมฝีปากโดยตรงและไม่สามารถเลี่ยงที่จะไม่ให้เข้าสู่ร่างกายได้ จึงต้องตรวจสอบให้ดีว่ามีส่วนผสมที่เป็นอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ซึ่งในปัจจุบันมีลิปมันที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ ไม่แต่งสี ไม่แต่งกลิ่น ปราศจากน้ำหอมและสารกันเสียอยู่มากมาย ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่มีผิวบอบบางและแพ้ง่าย ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกลิปมันกันแดดที่ไม่ใส่สารเติมแต่งเหล่านี้ หรือใส่ให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดการระคายเคือง
ปัจจุบันลิปมันที่วางขายในท้องตลาดบางส่วนมีคุณสมบัติเปลี่ยนสีได้ ถึงแม้ว่าสีจะไม่เข้มเหมือนกับลิปสติก แต่มันก็ทำให้ปากของคุณมีสีที่แตกต่างไปจากสีปากธรรมชาติ เหมาะกับการแต่งหน้าเบา ๆ ในวันหยุด ซึ่งหากคุณชอบลิปมันชนิดนี้ก็เพียงแค่เลือกเฉดสีที่เหมาะกับตัวเอง เท่านี้ก็เป็นการเพิ่มความสดใสให้ใบหน้าและดูแลริมฝีปากไปพร้อมกันในคราวเดียว
แต่ถ้าหากคุณไม่ชอบการใช้ลิปมันเปลี่ยนสีหรือกลัวว่าลิปมันเปลี่ยนสีจะทำให้สีลิปสติกของคุณเพี้ยนไป ก็อย่าลืมสังเกตที่บรรจุภัณฑ์ก่อนซื้อด้วย โดยลิปมันชนิดนี้มักไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสีบนบรรจุภัณฑ์และมักเป็นแท่งสีขาวธรรมดา
หลังจากได้ทำความเข้าใจวิธีการเลือกซื้อลิปมันกันแดดกันไปแล้ว ตอนนี้เรามาลองดูผลิตภัณฑ์ลิปมันกันแดดที่ขายดีในหมู่สาว ๆ ยุคปัจจุบันไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
หากคุณประสบปัญหาริมฝีปากแห้ง ปากแตกบ่อย ๆ อยากได้ลิปมันดี ๆ สักอันแต่ก็กลัวจะแพ้ เราก็ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ลิปมันจากแบรนด์ประเภทเวชสำอางสูตรนี้จาก Eucerin ที่เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย สามารถใช้ได้ในทุก ๆ วัน
ด้วยส่วนผสมของ Dexpathenol และ Vitamin E Acetate ที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูริมฝีปากจากความแห้งกร้าน อีกทั้งยังปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองอย่างสารกันเสียจำพวกพาราเบนและน้ำหอม หากสาว ๆ ต้องการบำรุงให้ปากไม่แห้งแตก แถมการป้องกันริมฝีปากจากแสงแดดพอประมาณ แต่ไม่ได้อยากได้สีของลิปมัน ลิปตัวนี้ถือว่าเป็นลิปมันที่ลงตัวเลยค่ะ
ลิปมันแบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกาที่มาพร้อมกลิ่นเบอร์รี่หอมหวานและยังมี SPF 15 ที่ช่วยป้องกันรังสี UV จากแสงแดดได้นานถึง 3 ชั่วโมง ความพิเศษของลิปมันรุ่นนี้ที่ต่างจากตัวอื่น ๆ คือสามารถปกป้องริมฝีปากจากสารเคมีในลิปสติกได้อีกด้วย เป็นลิปมันที่ไม่มีสีและไม่ทำให้ปากมันเงาจึงเหมาะอย่างยิ่งในการทารองพื้นก่อนทาลิปสติกทุกครั้งเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากและช่วยป้องกันสารเคมีจากลิปสติกไปในตัว
ผู้ใช้จริงได้ให้ความเห็นว่าทาแล้วจะเย็น ๆ ปากเล็กน้อย ให้ความรู้สึกสดชื่นตลอดวัน อีกทั้งหลายคนยังบอกอีกว่าลดอาการปากดำคล้ำได้ดี แต่ในเรื่องความชุ่มชื้นยังทำได้ในระดับปานกลาง ต้องทาเติมระหว่างวันอยู่บ้าง
ลิปมันกันแดดกลิ่นสตอเบอรี่ที่มี SPF 15 มีความพิเศษคือสามารถป้องกันน้ำได้ยาวนานถึง 80 นาที พร้อมมีมอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้น ป้องกันริมฝีปากแห้ง แตกและลดรอยมองคล้ำ สามารถทาได้ทุกวันเพื่อริมฝีปากที่สวยสุขภาพดี
ผู้ใช้จริงส่วนใหญ่กล่าวว่าช่วยรักษาอาการปากแห้งได้ภายใน 3 วัน เนื้อลิปเนียนนุ่มและมีกลิ่นหอม ทาแล้วปากไม่มันวาว เหมาะกับคนที่อยู่ห้องแอร์หรืออากาศเย็น ๆ เป็นเวลานาน แต่ก็มีบางรายที่เกิดอาการแพ้หลังจากใช้ลิปมันตัวนี้ ดังนั้นหากเกิดอาการระคายเคืองกับริมฝีปากคุณ ให้รีบหยุดใช้ทันที
ลิปมันชื่อดังอีกหนึ่งแบรนด์จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีส่วนผสมของเนื้อแตงโมและผลราสเบอร์รี่ให้กลิ่นหอมของผลไม้อ่อน ๆ มีสารให้ความชุ่มชื้นอย่างวิตามินอีและน้ำมัน Lanolin หรือน้ำมันจากขนแกะ พร้อม SPF 15 ที่ช่วยปกป้องริมฝีปากจากแสงแดด ช่วยลดความหมองคล้ำและปรับเปลี่ยนริมฝีปากเป็นสีชมพูเรียบเนียน
ลิปมันกันแดดรุ่นนี้เป็นรุ่น Ice Lip ซึ่งมีเมนทอลผสมอยู่ ดังนั้นเมื่อทาแล้วจะให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น เบาสบาย ไม่หนักหรือเหนอะหนะปาก ให้ความชุ่มชื้นได้ดีระดับหนึ่งยาวนานประมาณ 4-5 ชั่วโมง อาจไม่เหมาะสำหรับคนที่ปากแห้งรุนแรง นอกจากแบบแท่งแล้วยี่ห้อนี้เขายังมีภาชนะบรรจุแบบหลอดและแบบตลับให้เลือกอีกด้วยนะคะ
ลิปมันเปลี่ยนสีและกันแดดฝีมือคนไทยที่แม้เนื้อลิปจะเป็นสีม่วง แต่เมื่อทาลงบนริมฝีปากแล้วจะเปลี่ยนสีเรียวปากให้เป็นสีชมพูอ่อน ๆ พร้อมการบำรุงเข้มข้นด้วยส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติอย่าง Shea Butter, วิตามินอีและสารสกัดจากเมล็ดดอกทานตะวัน ช่วยให้ความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากอวบอิ่ม ไม่แห้งแตกเป็นขุยและยังมีส่วนผสมของสารกันแดด SPF 20 PA+++ ที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB
หลายคนชอบลิปมันจาก KA รุ่นนี้ เพราะนอกจากสรรพคุณที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังมีกลิ่นหอมของ Berry Chiffon อีกด้วย ลิปตัวนี้ราคาสบายกระเป๋าเพียงชิ้นละ 50 บาทเท่านั้น จึงเป็นลิปมันยอดฮิตในหมู่นักเรียน นักศึกษาอย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่ะ
ลิปมันกันแดด SPF 30 PA++ โดย Oriental Princess อีกหนึ่งแบรนด์ไทยที่ทุกคนคุ้นเคย รุ่นนี้สามารถปกป้องริมฝีปากจากทั้งรังสี UVA และ UVB จากแสงแดดได้ในทันทีที่ทา ไม่ต้องรอทิ้งไว้เหมือนลิปทั่วไป ป้องกันริมฝีปากคล้ำเสียจากแสงแดด พร้อมให้ความชุ่มชื้นยาวนานถึง 8 ชม. บำรุงริมฝีปากให้เนียนนุ่มมีสุขภาพดี
หลายคนที่ใช้บอกว่าทำให้ริมฝีปากนุ่มขึ้นและดูคล้ำน้อยลง เหมาะกับคนที่ชอบความ Active มีกิจกรรมออกแดดเป็นเวลานาน ถือว่าเป็นแบรนด์ไทยที่มีสินค้าคุณภาพดีในราคาสมเหตุสมผล และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ที่ควรค่าแก่การลองเลยค่ะ
ลิปมันแบรนด์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นที่สามารถปกป้องริมฝีปากจากทั้งรังสี UVA และ UVB ด้วย SPF20 PA+ พร้อมยังช่วยผลัดเซลล์ผิวให้อ่อนนุ่ม ชุ่มชื่น เพื่อให้ริมฝีปากเรียบเนียน ไม่แห้งแตกเป็นขุย อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติและวิตามินนานาชนิดอาทิ วิตามินซี, วิตามินอี, น้ำมันมะกอกและที่สำคัญคือไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม คนที่ผิวบอบบางและแพ้ง่ายจึงสามารถใช้ได้โดยไม่ต้องกังวล
หลายคนใช้ลิปมันรุ่นนี้ตอนก่อนนอน เพราะไม่ชอบกลิ่นธรรมชาติที่ปราศจากน้ำหอม แต่ในเรื่องความชุ่มชื้นติดทนนานนั้นทำให้มองข้ามเรื่องกลิ่นไปโดยปริยาย ทาแล้วตื่นมาริมฝีปากนุ่ม อยู่ติดนานตลอดวันแทบไม่ต้องทาซ้ำ หลายคนคอนเฟิร์มว่าทำให้ปากที่แห้งแตกหายได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง และทำให้สีปากอมชมพูขึ้นด้วย
เป็นแบรนด์ที่รู้จักกันดีกับ Burt’s Bees ว่าเป็นแบรนด์ออร์แกนิคที่อ่อนโยน มีลิปมันที่น่าใช้หลายตัว หนึ่งในนั้นคือลิปมันสูตรนี้ที่บำรุงริมฝีปากได้ในทุกสถานการณ์ เหมาะสมทั้งการใช้ในสภาพอากาศทุกประเภทไม่ว่าร้อนจัดหรือหนาวจัด
ลิปเป็นลิปมันไร้สี มีกลิ่นหอมของน้ำผึ้ง มีส่วนผสมดี ๆ เพื่อการบำรุงริมฝีปากอย่าง Shea Butter, Jojoba Oil , น้ำมันมะกอก และมีสาร Zinc Oxide ป้องกันรังสี UV ระดับ SPF 15 Broad Spectrum ช่วยปกป้องผิวริมฝีปากจากการหมองคล้ำและการโรยราของเซลล์ผิว ลิปมันตัวนี้ยังมีส่วนผสมที่ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองอย่างพาราเบน พาทาเลต หรือ SLS จึงปลอดภัยสำหรับสาว ๆ ที่แพ้ง่าย
ลิปมันกันแดดจากประเทศญี่ปุ่น ช่วยปกป้องริมฝีปากจาก UVA และ UVB ด้วย SPF 20 PA+++ แถมยังอุดมไปด้วยส่วนผสมขั้นเทพอย่างกรดไฮยาลูรอนิคที่ช่วยให้ริมฝีปากเก็บกักความชุ่มชื่นไว้ได้นานกว่าปกติ คอลลาเจนและน้ำผึ้งที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระและชะลอริ้วรอยแห่งวัย รวมถึงว่านหางจระเข้ที่ลดการอักเสบของผิวอันเนื่องมาจากแสงแดด ที่สำคัญคือ เป็นลิปมันที่ปราศจากน้ำหอมด้วย
ลิปมันกันแดดรุ่นนี้เป็นสูตรน้ำที่มีลักษณะแบบทินท์ที่ให้สีอ่อน ๆ ดูเป็นธรรมชาติ มีด้วยกันหลายสี เช่น Honey Lemon, Milky Pink, Raspberry Red สี Peach Gold ที่เราแนะนำในวันนี้จะมีสีส้มอ่อน ๆ แบบสีพีชให้ลุคสวยหวาน สดใส ได้ทั้งสีปากสวย ๆ ดูเป็นธรรมชาติพร้อมส่วนผสมขั้นเทพขนาดนี้ พลาดไม่ได้แล้ว
ลิปมันกันแดดมีสีจากอีกหนึ่งแบรนด์ชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นที่มาพร้อมวิทยาการใหม่อย่างเทคโนโลยี WetForce ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องริมฝีปากจากรังสี UVA และ UVB ด้วย SPF 42 PA+++ นอกจากนี้ยังอุดมด้วยส่วนผสมเชิงซ้อนอย่าง Clear Defense Gel Complex ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยอาศัยวิทยาการ Clear Defense Technology ช่วยมอบเนื้อผลิตภัณฑ์แบบเจลลี่ที่โปร่งใส ให้เนื้อสัมผัสบางเบา แถมยังให้ความชุ่มชื่นยาวนานด้วยส่วนผสมจากน้ำมันดอกคำฝอย
ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะและไม่ทิ้งคราบขาว จะใช้ทาเดี่ยว ๆ หรือทาทับลิปสติกเพื่อช่วยให้สีดูโดดเด่นและชัดขึ้นก็ได้ คนที่ผิวแพ้ง่ายสามารถทาได้เพราะมีความอ่อนโยน ปราศจากส่วนผสมของน้ำหอม บรรจุภัณฑ์เป็นหลอดบีบ ปากหลอดทำมุมรองรับรูปทรงริมฝีปาก จึงใช้ง่ายสะดวกรวดเร็ว ใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา
หลาย ๆ คนคงเข้าใจถึงความสำคัญและวิธีการเลือกลิปมันกันแดดกันมากขึ้น หวังว่าบทความนี้จะให้ประโยชน์กับเพื่อน ๆ ได้ไปเอาไปปรับใช้และเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองได้ไม่มากก็น้อยนะคะ อย่าลืมปกป้องริมฝีปากคุณจากรังสี UV ด้วยการใช้ลิปมันกันแดดเป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้อีกหนึ่งส่วนผสมที่ขาดไม่ได้เลยก็คือมอยส์เจอไรเซอร์ ทั้งสองสิ่งสำคัญนี้จะช่วยให้ริมฝีปากของคุณอ่อนนุ่มชุ่มชื่นและดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ
สุดท้ายนี้ขอย้ำว่าการใช้ลิปมัน หากเกิดการระคายเคืองต่อริมฝีปากให้รีบหยุดใช้ทันทีอย่าฝืนใช้ต่อ และหากอาการไม่ดีขึ้นควรรีบไปพบแพทย์ค่ะ